Whitakers ครอบครัวที่สืบพันธุ์กันเอง เพื่อสายเลือดบริสุทธิ์

ครอบครัวที่สืบพันธุ์กันเอง

ครอบครัวที่สืบพันธุ์กันเอง การสืบสายเลือดเดียวกันในปัจจุบันนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ว่าไม่ใช่กับครอบครัวนี้ ครอบครัว วิตเทเกอร์ ที่นิยมสืบสายเลือดเดียวกัน จนลูกหลานออกมามีหน้าตาที่บิดเบี้ยว

เรื่องจริงของ ครอบครัวที่สืบพันธุ์กันเอง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 มาร์ค ไลตา ช่างภาพชาวอเมริกัน ผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และความหลงใหลในมนุษย์ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านอ็อดด์ รัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย เมืองเล็กๆ ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการถ่ายภาพธรรมดา จุดหมายปลายทางของเขาคือการค้นหาผู้คนที่มีเรื่องราวน่าสนใจ เขาจึงมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ เพื่อพบกับนายอำเภอ และ อธิบายความตั้งใจให้นายอำเภอฟัง คำตอบของนายอำเภอจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นของไลตาขึ้นมาทันที “ในเขตนี้ มีครอบครัวหนึ่งที่น่าสนใจ พวกเขาไม่เหมือนใคร คงจะตรงกับสิ่งที่คุณกำลังมองหา” และนี่ก็คือ จุดเริ่มต้นที่นำพาไลตาไปพบกับครอบครัว whitakers (วิตเทเกอร์) ที่มีสมาชิกภายในครอบครัวหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันได้แก่ เบ็ตตี้ ลอแรน เรย์ และ ทิมมี่

เรื่องราวของครอบครัว วิตเทเกอร์ เริ่มต้นจากพี่น้องสองคน อลิซา และ แมรี ทั้งคู่แยกย้ายกันไปแต่งงานมีลูก อลิซามีลูกชายฝาแฝดชื่อ เฮนรี และ จอห์น ส่วนแมรีมีลูกสาวชื่อ เอด้า เมื่อโตขึ้น เอด้าก็ได้มาแต่งงานกับจอห์น ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอเอง ความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ เริ่มซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เมื่อลูกสาวของจอห์นกับเอด้า แต่งงานกับลูกชายของเฮนรี ที่เป็นฝาแฝดกับจอห์น พูดง่ายก็คือ แต่งงานกับลูกของลุงแท้ๆนั่นเอง จากนั้น หนุ่มสาวคู่นี้ก็ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน และให้กำเนิดบุตรหลานสืบสกุลวิตเทเกอร์รุ่นต่อมา ประกอบไปด้วย ลอแรน และ เรย์ พร้อมพี่น้องร่วมสายเลือดอีกนับสิบคน การสืบพันธุ์ภายในครอบครัว วิตเทเกอร์ ส่งผลต่อสุขภาพของลูกหลานบางคน

ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยว ตาเหล่ การสื่อสารด้วยคำพูดเป็นสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ เสียงคำรามและการเห่าจึงกลายเป็นวิธีการสื่อสารหลักของพวกเขา แต่ไม่ใช่สมาชิกทุกคนในครอบครัว วิตเทเกอร์ ที่มีปัญหาในการสื่อสาร ยังมีบางคนที่สามารถพูดคุยและแสดงออกได้อย่างปกติ จากข้อมูลของ Thought.co (ต๊อท ดอท ซีโอ) ศูนย์กลางการศึกษาที่จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการผสมพันธุ์ด้วยสายเลือดเดียวกันไว้ว่า การผสมพันธุ์ด้วยสายเลือดเดียวกันอาจส่งผลต่อขนาดของตัวอ่อน ทำให้ขนาดตัวอ่อนที่โตเต็มไวเล็กลง มีภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดลง

ลูกหลานมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคทางระบบประสาท โรคทางระบบเผาผลาญ และ ความพิการทางสมอง หรือ ร่างกาย การสืบพันธุ์กับสายเลือดเดียวกัน หรือ การแต่งงานระหว่างญาติใกล้ชิด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานตั้งแต่สมัยโบราณ หนึ่งในตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือ ราชวงศ์ฮับสเบิร์ก (Habsburg) ราชวงศ์ที่ปกครองยุโรปกลางมาหลายศตวรรษ ทีมนักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซานเตียโกเดคอมโพสเตลา (University of Santiago de Compostela) ของประเทศสเปน ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาลงในวารสาร เอลนอล ซอฟ ฮิวแมน ไบโอโลจี้ (Annals of Human Biology) โดยแสดงหลักฐานยืนยันว่า คางที่ยื่นยาว หรือ ขากรรไกรฮับสเบิร์ก

เกิดจากความอ่อนแอทางพันธุกรรม ที่มาจากการแต่งงานระหว่างญาติใกล้ชิด รูปหน้าที่บิดเบี้ยวของราชวงศ์ฮับสเบิร์กนั้น เรียกว่าภาวะการสบฟันผิดปกติ  ซึ่งเกิดจากขากรรไกรล่างยื่นยาวออกมามากเกินไป สาเหตุหลักมาจากความอ่อนแอทางพันธุกรรม พบได้บ่อยในหมู่ผู้มีเชื้อสายราชวงศ์ฮับสเบิร์ก ราชวงศ์ผู้ปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจเหนือหลายแคว้นในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก รวมไปถึงสเปนและออสเตรีย ราชวงศ์ฮับสเบิร์ก มีธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน คือการสมรสในหมู่เครือญาติใกล้ชิด ก็เพื่อจะรักษาและขยายอำนาจการปกครองภายในราชวงศ์ ส่งผลให้ยีนด้อยในสายเลือดเดียวกันมีโอกาสแสดงตัวออกมาชัดเจน

เชื้อพระวงศ์ฮับสเบิร์กหลายคนจึงมีใบหน้าที่ขากรรไกรยื่นออกมา ยาวกว่าปกติ รัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่สอง กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ฮับสเบิร์ก เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสื่อมถอยของจักรวรรดิ สาเหตุหลักมาจากปัญหาสุขภาพของพระองค์ ที่เกิดขึ้นจากการสมรสในหมู่เครือญาติ ทำให้พระองค์ มีโครงหน้าที่ผิดแปลก มีรูปร่างแคระ ทำให้กินอาหารได้ลำบาก และ ยังไม่สามารถมีรัชทายาทได้ นำมาสู่การล่มสลายของราชวงศ์ฮับสเบิร์กในที่สุด

ก็จบลงไปกันแล้วนะครับ สำหรับการนำเสนอเรื่องราวของ ครอบครัวที่สืบพันธุ์กันเอง แสดงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของลูกหลาน ทั้งในแง่มุมของทางจริยธรรม หรืออาจเป็นประเพณีในสมัยก่อน เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง สามารถติชมและพิมพ์ทิ้งไว้ในช่อง comment ได้เลยนะครับ ก่อนจากกันไป กดไลค์ กดแชร์ กด Subscribe ให้กับช่อง พร้อมเหลา เพื่อที่จะไม่พลาดเนื้อหาในคลิปต่อๆไปของพวกเราด้วยนะครับ

ใส่ความเห็น