ถ้ามังกรมีชีวิตอยู่จริง พวกมันจะมีหน้าตาอย่างไร?

ถ้ามังกรมีชีวิตอยู่จริง พวกมันจะมีหน้าตาอย่างไร เคยสงสัยหรือไม่ว่าสัตว์ขนาดใหญ่พ่นไฟและบินได้นั้น ถ้ามันจะมีอยู่จริง หน้าตาที่เป็นไปได้ในทางวิทยาศาสตร์ควรเป็นแบบไหนกันแน่

มังกร ตำนานที่แพร่หลายและเป็นหนึ่งในสัตว์เทพนิยายที่โด่งดังที่สุดในโลก พวกมันมีหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องที่และวัฒนธรรม เช่นความแตกต่างกันของมังกรจากเอเชียและมังกรจากโลกตะวันตก แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าหากพวกมันจะมีอยู่จริง มังกรที่จะเป็นไปได้ในทางวิทยาศาสตร์ควรมีหน้าตาแบบไหนกันแน่ ย้อนกลับไปในปี 2004 Animal Planet ได้เผยแพร่รายการหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องราวของนักบรรพชีวินวิทยา ที่เชื่อว่าฟอสซิลของทีเร็กซ์ถูกฆ่าโดยสิ่งมีชีวิตปริศนาที่ใหญ่กว่าแข็งแกร่งกว่าอย่าง มังกร ภายในรายการจะมีทั้งการค้นหาความจริงจากฟอสซิลที่เหลืออยู่และการรวบรวมข้อมูลแต่ละสายพันธุ์ของมังกรจากทั่วทุกมุมโลก นี่คือเนื้อหาจาก The Last Dragon หรือ Dragon adrenal ซึ่งในไทยรู้จักกันในชื่อสารคดีมังกรตัวสุดท้าย ถึงแม้ The Last Dragon จะเป็นแค่ภาพยนตร์ไซไฟแฟนตาซีแต่เพราะความพยายามที่จะเสนอในรูปแบบของสารคดี ทำให้ตัวหนังโด่งดังได้รับความนิยมมาก

ในมุมหนึ่งหนังเรื่องนี้ก็ถูกวิจารณ์ว่าการสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนดูด้วยการอ่านข้อมูลผิดๆ ในอีกมุมหนึ่งก็ทำให้เกิดกระแสการตั้งคำถามว่าเป็นไปได้ไหมว่ามังกรจะมีอยู่จริง ในคลิปนี้ผมอยากจะลองมาแลกเปลี่ยนและคิดเล่นๆว่าถ้ามังกรจะมีจริงพวกมันต้องมีรูปร่างหน้าตาแบบไหนถึงจะมีความเป็นไปได้ ตั้งแต่เรื่องหน้าตาของมันปีกไปจนถึงเรื่องแฟนตาซีอย่างการพ่นไฟ ซึ่งเป็นเพียงสมมติฐานเพื่อพัฒนาการความบันเทิงข้อมูลที่จะพูดถึงอาจมีข้อผิดพลาดเรายินดีแลกเปลี่ยนกันนะครับ มังกรคือตำนานที่กล่าวถึงสัตว์ในตำนานหรือเทพนิยายที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันดี ในเรื่องราวของพวกมันจะกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกในวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ที่แตกต่าง แต่พวกมันก็ไม่จะมีจุดร่วมที่คล้ายคลึงกันมาก พวกมันมักมีฐานะเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมากสัตว์ทั่วไป รวมถึงอาจมีอิทธิฤทธิ์หรือพลังเหนือธรรมชาติด้วย ซึ่งนอกจากเรื่องของพลังต่างๆมังกรโดยทั่วไปแล้วก็มักจะมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกัน

พวกมันมักมีหน้าตาเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่สามารถบินได้มีเกล็ดแข็งยาวและแหลมคมตามร่างกาย หน้าตาของพวกมันจะมีกรามยื่นยาวไปด้านหน้าพร้อมฟันที่แหลมคมรวมถึงอาจจะมีเขาแหลมที่เป็นเอกลักษณ์เสริมด้วย โดยทั่วไปมังกรที่เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะในโลกตะวันตกมักมีรูปร่างสูงใหญ่มี 4 ขาและมีปีก 2 ข้างสำหรับการบิน หน้าตาของมังกรมักถูกนำไปเทียบกับสัตว์เลื้อยคลานต่างๆเช่น อีกัวน่า comodo Dragon Red Eyed crocodile skink หรืออะมาดิโล่ curdled ทำให้อาจคิดไม่ได้ว่ามังกรก็อาจจะเป็นสัตว์เลื้อยคลานเช่นกัน แต่หาสังเกตดีๆมังกรมี 4 ขาและ 2 ปีกนั้นไม่สามารถถูกบรรจุอยู่ร่วมกับสัตว์ในปัจจุบันได้ สัตว์บกมีกระดูกสันหลังทุกชนิดในโลกนั้นมีแขนขาหรือปีกร่วมกันเป็นสีข้าง จึงถูกเรียกว่าเธอคอร์ดจากภาษากรีกโบราณที่แปลว่าสี่เท้า ดังนั้น มังกรมีปีกที่จะเป็นไปได้จึงน่าจะมีขาอีกแค่ 2 ข้างเท่านั้น เหมือนเช่นตำนานของไวเวิลที่มีขาหลัง 2 ข้างและขาหน้าเป็นปีกสองข้างคล้ายกับนกหรือค้างคาว หรือรูปร่างที่เป็นไปได้อีกแบบคือการเป็นสัตว์ที่หน้าตาคล้ายกับงูเหมือนกับมังกรของชาวเอเชีย มังกรของชาวเอเชียมักถูกยกให้เป็นสัตว์ชั้นสูงที่มีอิทธิฤทธิ์มากเป็นพิเศษ

มักจะเกี่ยวข้องกับธาตุหรือสภาพอากาศโดยเฉพาะฝนและท้องทะเล ดังนั้น ตำนานของพญานาคจึงมักถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งในรูปแบบของมังกรด้วยเช่นกัน มังกรที่เป็นไปได้จึงอาจจะรูปร่างแบบงูขนาดใหญ่หรือเป็นสัตว์ 2 ขามีปีก หากมังกรจะมีสีขาวและ 2 ปีกพวกมันอาจจะต้องมีวิวัฒนาการของตัวเองโดยเฉพาะตั้งแต่หลายร้อยล้านปีก่อน แยกสายจากสัตว์บกทั้งหมดที่เรารู้จัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารูปร่างของมังกรจะต้องเป็นแบบที่กล่าวไปเท่านั้น เพราะยังมีมังกรอีกหลายประเภททั้งแบบมีปีกและไม่มีปีก จากตำนานในแต่ละท้องที่ทั่วโลก มังกรบินได้อาจจะมีหน้าตาแปลกกว่าที่เราจะคิดถึง แต่การบินของพวกมันก็ยังติดปัญหาใหญ่อีกอย่างนั่นคือขนาดของพวกมัน สัตว์บินได้ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง aesthetics หรือ quetzalcoatlus นั้นสูงพอๆกับยีราฟเพื่อให้สามารถสร้างแรงพยุงได้มากพอ พวกมันมีกระดูกที่กลวงและเบาพร้อมกับปีกที่กว้าง 10 เมตร และอวัยวะทางเดินหายใจที่ออกแบบมาเพื่อการบินโดยเฉพาะ

หากมังกรจะเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเช่นขนาดพ่อกับทีเร็กซ์ตัวใหญ่กว่านั้นมันจะต้องมีปีกที่ทรงพลังมากพอที่จะแบกน้ำหนักของพวกมันได้ ซึ่งขนาดใหญ่ขึ้นแรงพยุงที่ปีกของพวกมันจะต้องทำได้ก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ปีกของพวกมันจึงต้องใหญ่และมีพลังงานมากพอที่จะขยับปีกทรงพลังนั้นได้ นอกจากนี้สัตว์ขนาดใหญ่มากจะมีอัตราการเผาผลาญอาหารที่ช้าลง ซึ่งจะทำให้ยากต่อการสร้างพลังงานที่จำเป็นต่อการบินในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากมากต่อให้พวกมันจะมีอวัยวะภายในที่เบาหรือกระดูกที่กลวงแบบเดียวกับ kasoor นอกจากหน้าตาแล้วเอกลักษณ์พิเศษอีกอย่างของมังกรคือการพ่นไฟ แม้จะเป็นความสามารถที่ดูแฟนตาซีเกินไปที่จะมีจริง แต่การตัดจบบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยคงจะหมดสนุก ความเป็นไปได้ไหมในทางวิทยาศาสตร์มีการพยายามหาคำอธิบายหลายอย่างสำหรับความสามารถนี้ โดยทฤษฎีที่ว่าถูกถึงคือการมีต่อมหรืออวัยวะพิเศษสำหรับการจัดเก็บสารเคมีบางอย่าง

ซึ่งเมื่อมันถูกผสมกับสารชนิดอื่นหรืออากาศจะทำให้เกิดประกายไฟขึ้น แต่ก็ยังมีคำถามที่ว่าหากไม่มีสารชนิดพิเศษที่เก็บไว้มันจะทำยังไงไม่ให้ความสามารถนี้ทำร้ายตัวมันเอง เพราะสารเคมีหลายชนิดมีจุดเดือดที่แตกต่างกัน การเก็บสารเคมีเหล่านั้นจึงต้องใช้ระบบที่ซับซ้อนมาก และหากมันใช้แก๊สมีโอกาสที่ไฟจะสะท้อนกลับมาทำร้ายตนเองด้วย หรือหากเป็นของเหลวบางชนิดก็อันตรายเกินกว่าจะอยู่ในร่างกายสิ่งมีชีวิตได้ จึงมีอิสระดีคือมันอาจจะใช้สารไวไฟบางชนิดที่จะพูดออกมาพร้อมกับการจุดไฟเพื่อสร้างเปลวเพลิงขึ้น มนุษย์ก็มีความสามารถนี้จากการเรอหรือการผายลมที่จะปล่อยแก๊สมีเทนและไฮโดรเจนออกมา หาแก๊สเหล่านี้สัมผัสกับไฟก็จะเกิดการจุดเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นมังกรอาจใช้ความสามารถนี้โดยมีอวัยวะจุดไฟหรือการกินแร่ธาตุจากหินหรือโลหะธรรมชาติสำหรับใช้ในการจุดประกายไฟด้วย แต่ไม่มีสัตว์ในชีวิตจริงตัวไหนมีความสามารถเหล่านี้ เราจึงไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะต้องทำแบบไหนการพ่นไฟจึงจะเป็นไปได้ ดังนั้น หากเรามองที่ธรรมชาติและความเป็นไปได้ไหมที่เราพูดถึงอาจเป็นการอุปมาถึงความสามารถอื่นที่คล้ายกัน

ก็จบกันไปแล้วนะครับผมเรื่อง ถ้ามังกรมีชีวิตอยู่จริง พวกมันจะมีหน้าตาอย่างไร เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง หรือว่าข้อมูลของเราผิดพลาดตรงไหน เพื่อนๆสามารถติชมและพิมพ์ทิ้งไว้ในช่อง comment ได้เลยนะครับ ยังไงก็ฝากกดไลค์กดแชร์กด Subscribe ให้กับช่อง พร้อมเหลา ไว้ด้วยเพื่อเราจะได้มีกำลังใจในการทำคลิปต่อๆไปมาให้เพื่อนๆได้รับชมกัน