ปริศนาบนฟากฟ้า ทุกคนทราบกันดีว่า สัตว์ทุกชนิดย่อมมีอายุขัยของมัน แต่ถ้าเป็นการตายพร้อมๆ กันหลายๆ ตัวในครั้งนึง หลายคนคงสงสัยไม่น้อย เรามาหาคำตอบในบทความนี้กัน
ปริศนาบนฟากฟ้า
เพื่อนจะทราบดีกันอยู่แล้วว่าสัตว์ทุกชนิดน่ะย่อมมีอายุขัยของมัน แต่ถ้าเป็นการตายพร้อมกันหลายๆตัว ในหนึ่งครั้งและเกิดขึ้นในหลายประเทศอ่ะ มันเป็นไปได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าพวกนกน่าสงสารเหล่านั้น
มีใครเคยเห็นคลิปนี้แล้วหรือไม่ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะเคยเห็นคลิปนี้กันมาบ้างแล้วเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ ประเทศเม็กซิโก วีดีโอนี้มาจากสำนักข่าว USA Today แล้วไอ้คลิปนี้เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นเหตุการณ์ นกแบล็คเบิร์ด ซึ่งเป็นนกที่พบเห็นมากทางฝั่งยุโรป
ได้บินลงมาพร้อมกันสุดท้ายตกลงพื้นแล้วก็เกิดการตายเป็นจำนวนมาก ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งผมว่าอยู่ๆก็บินลงมาที่พื้นมันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร มันหลบเครื่องบินหรืออะไรยังไง แล้วอะไรดลใจในฝูงนกเนี่ย ถึงล่วงลงที่พื้นแบบนี้ บางตัวก็มีชีวิตรอดบางตัวก็ตาย
เหตุการณ์นี้น่ะน่าจะไม่ใช่เหตุการณ์นกตายธรรมดาๆ แน่นอนมันต้องมีอะไรสักอย่าง แต่ก็ยังไม่มีใครทราบสาเหตุ
จากประเทศเม็กซิโกเรามาดูที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในรัฐนิวยอร์กน่าจะมีเหตุการณ์นกตายเป็นจำนวนมาก ตายอย่างปริศนา แต่คราวนี้มันเป็นการพุ่งชนเข้ากับ ตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ไม่ได้ไปบินชนตึกละเชื้อชาติได้ระบุว่าสาเหตุมาจากสภาพอากาศอันเลวร้ายจากพายุอาจทำให้นกหนัก ไม่สามารถควบคุมทิศทางการบินของตัวเองได้เหมือนเดิม บวกกับกระจกของตึกและแสงไฟจากตึกในเวลากลางคืน
รบกวนการบินของนกได้เช่นกัน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังพบการตายของนกอีกรูปแบบหนึ่ง พบว่านกหลายสายพันธุ์ตายคล้ายๆกัน ด้วยอาการป่วยซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน่าจะเป็นโรคระบาดจากจักจั่น โรคนี้น่ะทำให้นกตาบวมและสูญเสียความสามารถในการบิน
ต่อมาเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เวลแห่งสหราชอาณาจักร กลางดึกของคืนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ปี 2012 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญ ทอมซินแคลร์ และ อีตั้น ได้รับแจ้งว่ามีนกจำนวนประมาณ 200 ตัว ตกลงมาตายเต็มถนนเลยตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า ไอ้นกเหล่านี้น่ะ เป็นนกที่อพยพมา อาจจะตายเพราะทนสภาพอากาศไม่ไหว หรือ ไม่ก็อาจจะโดนวางยาพิษมา
แต่ในภายหลังน่ะอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ชีวภาพและสิ่งแวดล้อม เผยสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ว่า จะเป็นการที่ฝูงนกนั้นน่ะ บินไปพร้อมกันหลายตัว ด้วยความเร็วสูงแล้วเกิดชนกันเพราะต้องการหลบตัวอื่น แล้วพอตัวนึงเปลี่ยนทิศทางจะทำให้ตัวอื่นๆต้องเปลี่ยนไปด้วยแล้วก็ชนกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ
ทำให้มีนกตกลงมาตายหลายตัว หรือไม่ก็อาจจะตกใจเสียงบางอย่าง เพราะธรรมชาติของนกส่วนใหญ่จะมีสัมผัสทางการได้ยินและการมองเห็นที่ดีในทุกๆตัว อาจจะไม่ได้มีความสามารถเหล่านี้ในระดับที่เท่ากันได้ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ
มาดูทาง กรุงโรม มีการจุดพลุเฉลิมฉลองให้คนหมู่มากนั้นได้มีความสุขในวันปีใหม่ แต่กลับเกิดเหตุหน้าเศร้าสำหรับนกหลายร้อยตัวต้องตกลงมาตายในคืนนั้นซึ่งองค์กรนานาชาติหรือในชื่อ International Organization for the Protection Of Animals เผยว่าอาจจะเกิดจากเสียงดังรบกวนที่อยู่ของนก นกจึงตกใจบินชนเข้ากับสิ่งก่อสร้างอย่างแรง และ ก็ตกลงมาตาย
ประเทศอินเดีย ประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศลาวเท่าไหร่ ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นเหมือนกันจะแตกต่างกับประเทศที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ที่แตกต่างกันก็คือนกมาตายในสถานที่เดิม และ เวลาใกล้เคียงกันเสมอในทุกๆปี ราวกับมันไม่สามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นี้ได้เลย แล้วอะไรทำให้พวกมัน้องจบชีวิตลง
ที่นี่หมู่บ้านในประเทศอินเดียเชื่อกันว่าเป็นที่นกทั้งหลายน่ะ ทั้งนกอพยพ ท้องถิ่นต่างก็บินมาฆ่าตัวตาย ทั้งที่โดยปกติแล้วนกไม่ใช่สัตว์ที่มีแนวโน้มในการฆ่าตัวตาย อย่างสุนัขหรือแมวแต่อย่างไร ฆ่าตัวตายเนี่ยมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 19:00 น ถึง 22:00 น ของเดือนกันยายน ถึง เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงปลายมรสุมชาวบ้านในหมู่บ้านบางคนเชื่อว่าวิญญาณร้ายที่อยู่บนฟ้าเป็นผู้ทำให้นกตกลงมาตาย เชื่อว่าเหมือนนกบินเข้าใกล้แสงแถวสวนเขาปลูกมันไม่ได้บิลนี้ใกล้แต่อย่างใด แต่อาจจะเกิดอาการคล้ายๆกับว่าตกใจเสียมากกว่า และ นั่นก็เป็นสาเหตุ
ข้อสันนิษฐานจากผู้เชี่ยวชาญพื้นที่บริเวณนั้นอาจจะปกคลุมไปด้วยเมฆและหมอกทำให้วิสัยทัศน์ของนกนั้นแย่ลง และ มีการพบว่าเหมือนนกบินเข้าใกล้ กับ แสงสะท้อนเข้าปลุกมันเพียงแค่แสดงอาการคล้ายๆตกใจ แต่ไม่ได้บินหนีไปแต่อย่างใดผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าช่วงปลายมรสุมเป็นช่วงที่น้ำท่วมหนักมาก
ในรัฐอัสสัมทำให้เรานกต้องอพยพไปที่อื่นรวมถึงหมู่บ้านจัสตินกล้าเนื่องจากขาดแคลนที่อยู่อาศัยของน้ำท่วมหนัก จำนวนนกตายก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามรายงานในปี 1988 ซึ่งเป็นปีที่น้ำท่วมรัฐอัสสัมนะมากที่สุด เท่าที่เคยเกิดขึ้นบางคนคิดว่านกอาจจะถูกล่าจากชาวบ้านโดยใช้แสงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นตัวล่อและดักจับนกโดยใช้หนังยางหรือตาข่าย
ชาวบ้านบางคนก็บอกว่านกมักบินมาด้วยความเร็วสูง บินมาชนเข้ากับตึก และ ต้นไม้ ได้ประกาศสั่งห้ามใช้อุปกรณ์ต่างๆ และแสงไฟในการดักจับนก กรมอนุรักษ์ป่าไม้กล่าวว่าพวกเขาน่ะไม่แน่ใจว่ามีนกตายในจ๊ะทิงจากี่ตัวด้วยความที่ท้องฟ้ายามเย็นของที่นั่นน่ะ เต็มไปด้วยหมอกปกคลุมทำให้นกที่บินมาด้วยความเร็วสูงปะทะเข้ากับแสงจ้า
ยังต้องเจอกับกับดักอีก นั่นแสดงให้เห็นว่านกบางส่วนอาจจะตายจากฝีมือมนุษย์จริงๆในขณะเดียวกัน เรื่องแปลกๆ อยู่บ้านพื้นที่ห่างไกลจากหมู่บ้านธนะสิน 9 เพียงเล็กน้อยแต่กลับไม่ค่อยมีนกบินเข้าไป เราได้ทราบข้อสันนิษฐานกันไปแล้ว งั้นเรามาลองดูสิ่งที่เป็นแฟลตที่ผู้เชี่ยวชาญสรุปกันได้บ้างจากแสงดังกล่าวมีอยู่ 4 สายพันธุ์แต่ว่าค่อนข้างหลากหลายสำหรับการบินเข้าไปในที่เดียวอาจจะตายจากการเข้าใกล้แสงนั้นในระยะ 1.5 กิโลเมตรและรัศมีความกว้าง 200 เมตรข้อที่ 3 ถุงนกมักจะบินมาทางทิศเหนือซึ่งนั่นอาจจะเป็นเส้นทางการอพยพของพวกมันและข้อสุดท้ายนกที่ตายนกที่อยู่ใกล้บริเวณเนินเขา
และภูเขาแถวๆนั้นศูนย์นกที่อพยพมาไกลๆมากๆจะไม่มีปฏิกิริยารุนแรงต่อแสงที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าข้อสันนิษฐานส่วนใหญ่เกือบทุกๆครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะชี้ไปทาง 2 ประเด็นนั่นคือประเด็นธรรมชาติฟ้าฝนถิ่นเหนือการควบคุมและฝีมือของมนุษย์บางคนทั้งการดักจับการสร้างตึกสูงกระจกรบกวนเส้นทางการบินของนก
เป็นไงกันบ้างกับเรื่องที่ทางเราได้นำเสนอไป สำหรับใครที่ต้องการดูคลิปอื่นสามารถติดตามได้ที่ ช่อง พร้อมเหลา ใครที่อยากจะดูเรื่องไหนก็พิมพ์เข้ามาบอกกันได้นะ เดียวทางทีมงานเขาหามาให้ได้ดูได้ชมกัน