มนุษย์แช่แข็ง ที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์
มนุษย์แช่แข็ง คือภาวะตัวเย็นเกินหรืออุณหภูมิร่างกายต่ำผิดปกติ อุณหภูมิแกนของร่างกายจะต่ำกว่า 35.0 °C ภาวะตัวเย็นเกินเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,500 คนต่อปีในสหรัฐ เเละในเเต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุนี้สูงถึง 5.08 ล้านราย นั่นคือ 9% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่อปี
มนุษย์ที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์
- โดยเคสส่วนมากจะเกิดจากอุบัติเหตุต่างๆเช่นหกล้ม หรือหลงป่าในช่วงฤดูหนาสุดหฤโหดที่มีอากาศติดลบ เเต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีผู้รอดชีวิตจากเคสเเบบนี้เลย มีอีกคนหลายๆคนที่รอดชีวิตหลังจากนอนนิ่งใต้แผ่นน้ำเเข็งเเละกลับมาเล่าเรื่องราวของพวกตัวเอง วันนี้ promlao จึงได้หยิบเรื่องราวของ มนุษย์เเช่เเข็งที่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ว่าพวกเขากลับมาได้อย่างไร ทั้งที่ก้าวขาสู่โลกเเห่งความตายไปเเล้ว 1 ก้าว ไปหาคำตอบในคลิปเลยจ้า
มนุษย์ที่รอดจากการแช่แข็ง
- HYPOTHERMIA ภาวะตัวเย็นเกินหรืออุณหภูมิร่างกายต่ำผิดปกติ นิยามไว้ว่ามีอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายนั้นต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส ภาวะตัวเย็นเกินเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1500 คนต่อปีในประเทศสหรัฐอเมริกา มีงานวิจัยที่เก็บผลสำรวจในปี 2000 ถึงปี 2019 จากสื่อต่างประเทศทั้งหมด 5 ทวีปคือเป็น 46.3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกจากการรายงานการเสียชีวิตจำนวนกว่า 130 รายทำให้ทราบว่าใน 1 ปีมีผู้เสียชีวิตจากอุณหภูมิหนาวจัดสูงสุดถึง 5.08 ล้านราย นั่นคือ 9% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่อปีจะเห็นได้ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นบ่อยมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการรอดชีวิตเลยแล้วใครบ้างล่ะคิดว่าชีวิตจากภาวะตัวเย็นจากนี้ได้ Mitsutaka Uchikoshi ผู้ชายที่นอนอยู่ในหิมะ 24 วันแต่เขาไม่ตาย ในวันที่ 7 ตุลาคมปี 2006 บนภูเขาร็อคโคทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น Mitsutaka Uchikoshi ในขณะนั้นเขาอายุ 35 ปีเขาได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนได้ในขณะที่ทุกคนกลับด้วยกระเช้าไฟฟ้าแต่เลือกที่จะเดินลงจากเขาก่อนที่จะหลงทางและลื่นล้มระหว่างข้ามแม่น้ำจนกระดูกเชิงกรานหักและทำให้เขาไม่สามารถเดินต่อไปได้ กูชิกูชิ กล่าวไว้ว่าในวันที่ 2 หลังเกิดเหตุวันนั้นมีแสงแดดออกและความรู้สึกสุดท้ายของเขาก็คือนอนอยู่บนพื้นโลกรู้สึกสบายตัวมากและหลังจากนั้นเขาก็น่าจะกลับไปหลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลโอเบที่ญี่ปุ่นโดยใช้เวลารักษานานกว่า 2 เดือนซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้เลยหลังจากวันที่ 2 และมีรายงานว่าเขากินแค่น้ำเปล่าและซอสบาร์บีคิวเท่านั้นก่อนที่จะหมดสติไป ปีนเขาผ่านมาพบตัวคะได้ 24 วันให้หลังวันที่ 31 ตุลาคม อุณหภูมิรางกายกูชิกูชินั่นต่ำถึง 22 องศาเซลเซียสแบบไม่สามารถวัดชีพจรได้เลยอวัยวะภายในหลายส่วนล้มเหลวและกำลังเสียเลือดมากแพทย์ได้ทำการรักษาเขาเชื่อว่าหลังจากที่กูชิกูชิไม่ได้สติสัญชาตญาณร่างกายเริ่มทำงานโดยร่างกายเขาหนักลดการเผาผลาญลงอย่างสุดขีดคล้ายการปรับตัวเข้าสู่สภาวะจำศีลด้วยอุณหภูมิบนเขานั่นน่ะถึงต่ำถึง 10 องศาเซลเซียส ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยกล่าวไว้ว่ากูชิกูชิเขาตกอยู่ในสภาพที่คล้ายกับการจำศีลและอวัยวะหลายอย่างเข้าทำงานช้าลงของเขายังถูกคุ้มกันเอาไว้ได้เชื่อว่าสมองเขาสามารถกลับมาทำงานได้ 100% ยังเชื่ออีกว่าไม่มีผลระยะยาวได้ด้วยเป็นกรณีที่จะปฏิวัติวงการแพทย์เลยก็ว่าได้
- Eeika Nordby เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2001 ในประเทศแคนาดา โดย Eeika Nordby เด็กหญิงอายุ 13 เดือนใดออกมาข้างนอกบ้านคนเดียวในคืนที่อุณหภูมิลบถึง 24 องศาเซลเซียส ที่ Eeika Nordby ออกมาจากบ้านได้นั่นน่ะเนื่องจากประตูที่บ้านชำรุดก่อนที่แม่ของเอริกาจะออกมาเจอในสภาพที่เกิดจะแข็งทั้งตัวและถูกแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตแล้วเนื่องจากหัวใจนั้นหยุดเต้นไปถึง 2 ชั่วโมงและอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสก่อนที่จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ทั้ง 8 นั้นสามารถจัดการเต้นของหัวใจได้และฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ด้านกายภาพโดยไม่มีผลย้อนหลังร่างกายกลับมาใช้งานได้ปกติมีเพียงแค่แผลที่ขาด้านซ้ายเท่านั้น
- Jean Hilliard เรื่องราวของ Eeika Nordby ที่สลบไปในคืนที่อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียสหลังจากเธอนั้นพยายามหาที่พักหลังจากที่เธอเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยกับรถของเธอประมาณ 6 ชั่วโมงให้หลังในสภาพที่แข็งเป็นน้ำแข็งและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดย Eeika Nordby เธอหายใจก็ 2-3 ครั้งต่อนาทีและชีพจรต่ำมากเต้นเพียง 8 ครั้งต่อนาที แพทย์ได้บอกว่าเสียชีวิตไปแล้วแต่ตอนนั้นแพทย์เองก็ได้ยินเสียงร้องที่เบามากๆทำให้เขารู้ว่า Eeika Nordby ยังมีชีวิตอยู่โอกาสรอดของ Eeika Nordby ถือว่าน้อยมาก
- Justin Smith การรอดชีวิตของชายหนุ่มในปี 2016 นั้นเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากโดยจัสตินสมิธ ในวัย 26 ปีขณะที่เขากำลังเดินทางกลับบ้านในคืนที่อุณหภูมิติดลบหลังจากที่เขาเอาไปดื่มกับเพื่อนๆโดยจัสตินสมิธติดอยู่หิมะหลายชั่วโมงโดยอากาศตอนนั้นอุณหภูมิหนาวถึงลบ 20 องศาเซลเซียสเขาถูกพบในเช้าวันรุ่งขึ้นพ่อของเขา พบลูกชายตัวเองนอนอยู่ข้างถนนพอเขาบอกว่า Justin Smith นั้นหน้าซีดมากๆเขาอยากจับหาชีพจรฟังเสียงหัวใจเต้นแต่ก็ไม่เจอเลยเขาคิดว่าจัสตินสมิธนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วจริงๆหลังจากที่ใช้เวลาฟื้นฟูนานเกือบ 1 ปี จัสตินสมิธก็แข็งแรงพอที่จะสามารถเดินออกมาขอบคุณแพทย์ที่รักษาเขาได้ด้วยตัวเองเหตุใดกล่าวไว้ว่าตอนนี้ของเขาอ่ะอาจจะทำให้การรักษาคนไข้จากสภาพหนาวจัดเปลี่ยนไป
มนุษย์แช่แข็ง มนุษย์ทั่วไปนั้นไม่สามารถเข้าสู่สภาวะจำศีลได้แต่ในทางเทคนิคแล้วก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยซึ่งอุณหภูมิเย็นจัดนั้นจะทำให้อวัยวะต่างๆเกิดการชะลอตัวลงจากความหวังให้กับทางการแพทย์ก็จะสามารถนำความรู้นี้มาใช้เพื่อคงสภาพมนุษย์ใช้ได้นานกว่าปกติเช่นวิธีการผ่าตัดหัวใจโดยการลดอุณหภูมิของคนไข้ลงถึง 20 องศาเซลเซียสแต่วิธีนี้ก็ทำได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเพราะคนไข้อาจจะเกิดปัญหาได้รับผลกระทบที่ระบบประสาทในระยะยาวได้นั้นเองครับ