สัตว์ทะเลสุดแปลก ภายใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ มีสิ่งมีชีวิตมากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ แต่มีสัตว์ทะเลบางชนิดที่ถูกพูดว่ามันน่าจะมาจากต่างโลก เพราะรูปร่างหน้าตาที่น่าหวาดกลัวและที่อยู่อาศัยของพวกมันยากที่จะค้นเจอ วันนี้เราจะพามารู้จักกับสัตว์ทะเลสุดแปลก 10 อันดับ จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลย
สัตว์ทะเลสุดแปลก
ภายใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ มีสิ่งมีชีวิตมากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ แต่มีสัตว์ทะเลบางชนิดที่ถูกพูดว่ามันน่าจะมาจากต่างโลก เพราะรูปร่างหน้าตาที่น่าหวาดกลัวและที่อยู่อาศัยของพวกมันยากที่จะค้นเจอ วันนี้เราจะพามารู้จักกับสัตว์ทะเลสุดแปลก 10 อันดับ
สควิดเวิร์ด หรือ หนอนหมึก พบในประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2007 อาศัยอยู่ในความลึก 2,039 เมตร ถึง 2,912 เมตรกิน เศษซากที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่ตกลงมาจากผิวน้ำเป็นอาหารกว้างหนึ่งเซนติเมตรยาวได้ถึง 9 เซนติเมตร
ถูกเรียกว่าสควิดเวิร์ด หรือ หนอนหมึก เนื่องจากรยางค์ของมันคล้ายนวดของหมึก 5 คู่บนหัว โดยมี 4 คู่ทำหน้าที่เป็นอวัยวะหายใจ และ ประสาทสัมผัส อีกหนึ่งคู่ทำหน้าที่คายงวงช้างสำหรับการจัดอาหารรวมไปถึงอวัยวะที่ คล้ายขนบนตัวทำหน้าที่เหมือนจมูกเพื่อตรวจจับ สิ่งต่างๆรอบตัว
ซีแองเจิล หรือ นางฟ้าทะเล ขนาดทั่วไปหนึ่งถึงสองเซนติเมตร โดยจะยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร พบได้ในความลึก 500 เมตรถือเป็นหอยชนิดเดียวที่ไม่มีเปลือก ลักษณะโป่งใสจนสามารถมองเห็นอวัยวะสีส้มด้านใน
ด้านข้างของมันมีอวัยวะคล้ายปีกสองข้าง ใช้เพื่อควบคุมทิศทางการว่ายน้ำเป็นที่มาของชื่อมันบนหัวมีหนวดสั้นสองข้างเรียกว่าถุงตะขอมันเป็นเพศผู้โดยกำเนิด ก่อนที่จะพัฒนาอวัยวะเพศเมียในเวลาต่อมา
เมื่อสืบพันธุ์มันจะเคลื่อนอวัยวะสืบพันธุ์มาไว้ด้านนอกก่อนจะผูกกับคู่ของมันเพื่อผสมพันธุ์ โดยอาจจะอยู่แบบนั้นนานได้ถึง 4 ชั่วโมง
เหยื่อทางธรรมชาติของมันก็คือ ซีบัตเตอร์ฟาย ซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับมันเอง เมื่อมันเจอเหยื่อหัวของมันจะเปิดออกและจะมีหนวดด้านในจับเหยื่อนั้นมากินลงไป เนื่องจากมันมีลักษณะโปร่งใสเมื่อกินอาหารสีใดๆก็ตาม ตัวของมันก็จะเปลี่ยนสีไปตามเหยื่อที่มันกิน เห็นหน้าตาน่ารักแบบนี้แต่เวลามันล่าเหยื่อช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน
Gulper Eel พบได้ในระดับความลึก 1800 เมตร เป็นปลาที่มีลำตัวเรียวยาวคล้ายปลาไหลทั่วไป ลำตัวไม่มีเกล็ดปากกว้างใหญ่มีส่วนหัวที่ใหญ่กว่า 1 ใน 4 ของลำตัว ภายในปากมีฟันที่แหลมคม หางยาวและไวต่อความรู้สึก
ดวงตามีขนาดเล็ก ลำตัวทั่วไปสีดำ และ ยาวได้เต็มที่ประมาณ 2 เมตรมันกินอาหารได้หลากหลายชนิดไม่เลือก ปากที่กว้างใหญ่ทำให้สามารถกินอาหารที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวได้ เมื่อมันเจอเหยื่อจะไล่ต้อนเหยื่อก่อนจะขยับขากรรไกรเผยให้เห็นถุงใต้ปากขนาดใหญ่ และ หุบเหยื่อเข้าไปแบบเป็นๆดูภายนอกคล้ายลูกโป่งขนาดใหญ่
Munnopis Isopod สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในตระกูล Isopod ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดบนโลกโดยเชื่อว่าเจ้า Munnopis Isopod มันอาจจะเก่าแก่ถึง 300 ล้านปีมันยังเป็นญาติกับผิวบัสหรือตัวกะปิ โดยมาอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติก ด้วยขาที่มากถึง 7 คู่ สร้างความสงสัยว่ามันมีค่าที่จะขนาดนี้ไม่ทำอะไร ถ้าหากปกติมันว่ายน้ำอยู่ใต้ทะเลลึกถึงกว่า 300 เมตรปัจจุบันแม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้เรื่องราวของมัน ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสงนเสียจริง
Blobfish ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 1983 ก่อนจะมีการอธิบายลักษณะของมันไว้เมื่อปี 1995 ปลาบล็อบ หรือ แฟลชเฮดร์ หลายคนยกให้มันเป็นสัตว์ที่หน้าตาขี้เหร่ที่สุดในโลก แต่มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่ไม่ธรรมดา สามารถอาศัยอยู่ใต้น้ำที่ลึกกว่า 1000 เมตรได้
มันมีโทนสีขาวมีปากกว้าง ด้วยร่างกายพิเศษของมันทำให้สามารถลอยบนพื้นทะเลได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานในการว่ายน้ำมากนัก ถึงแม้จะเห็นหน้าตาประหลาดแบบนี้จริงๆแล้วรูปร่างโดยทั่วไปของมันเมื่ออยู่ใต้น้ำอาจจะดูไม่แปลกตามากนัก
แต่เมื่อมันถูกจับขึ้นมาอยู่บนพื้นดินร่างกายที่คล้ายวุ้นของมันจะเปลี่ยนตามแรงดันกระทันหัน อวัยวะภายในจะถูกดันออกมาข้างนอก เกิดเป็นหน้าตาแปลกๆอย่างที่เห็น ปัจจุบันเผ่าพันธ์ของน้องค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะมันจะติดมากับแห ล่าเหยื่อทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าในอนาคตมันอาจจะสูญพันธุ์ได้
Goblin Shark ปลาฉลามหาได้ยาก และ ถูกจัดเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ พบได้ในช่วงปี 1873 ถึง 1876 ยาวเต็มที่ถึง 4 เมตรอาศัยอยู่ในเขตน้ำลึกได้มากกว่า 1,300 เมตร โดยปกติแล้วจะมีลำตัวสีขาว
เมื่อถูกจับขึ้นมาจากน้ำสีลำตัวจะเปลี่ยนไปกลายเป็นสีแดงเหมือนเลือดบริเวณส่วนหัวด้านบนที่มีส่วนกระดูกที่ยื่นออกไปข้างหน้าเหนือกล้ามบน ในปากเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคมส่วนหัวที่ยื่นยาวออกไปนั้น
ด้านล่างประกอบด้วยอวัยวะเล็กๆหลายร้อยอันที่ทำหน้าที่เหมือนเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่จะได้แม้กระทั่งคลื่นไฟฟ้าอ่อนถึงหนึ่งในล้านโวลต์ อีกทั้งกล้ามยังมีกระดูกขากรรไกรที่เหมือนบานพับที่สามารถขยายออกมา
เพื่อพุ่งงับเหยื่อไม่ให้หลุดไปได้อีกด้วย เมื่อพบเหยื่อแล้วจะใช้กามที่เราออกมานี้งับเหยื่อเอาไว้ก่อน แล้วค่อยดึงกลับเข้ามา โดยนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเหตุที่ต้องมีกามเช่นนี้ เพื่อชดเชยส่วนที่อ่อนแอของร่างกาย
เนื่องจากปลาฉลามกอบลินไม่มีครีบ หรือ อวัยยวะใดๆที่ทำให้ว่ายน้ำได้เร็ว และ ฉลามกอบลิน จัดได้ว่าเป็นปลาฉลามที่ว่ายน้ำได้แย่มาก และ เชื่อว่าปลาฉลามก็อบลินเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะขยายพันธุ์ในที่ที่มีอาหารสำหรับเลี้ยงตัวอ่อนอุดมสมบูรณ์เพื่อใช้เป็นสถานพักเลี้ยง ส่วนปลาที่โตเต็มที่แล้วแต่ว่าอยากออกไป
เพื่อให้ตัวอ่อนได้มีอาหารที่เพียงพอ เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ ปลาฉลามก็อบลินนั้นแม้จะถูกจับได้บ่อย แต่มันมักจะตายระหว่างการถูกจับ หากจับมันได้แบบมีชีวิต มันก็จะตายหลังถูกจับไม่นาน
อีกทั้งส่วนใหญ่มักเป็นฉลามก็อบลินที่ยังไม่โตเต็มที่ ทำให้ ฉลามก็อบลิน ตัวเต็มวัยยังเป็นสัตว์หายากอยู่ในปัจจุบัน ต้องขอขอบคุณที่มันว่ายน้ำใม่เก่ง ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าจะเจอความน่ากลัวของมันได้ง่ายๆ
Obese Dragonfish แม้ชื่อของมันจะหมายถึง ปลามังกรต้าวอ้วน แต่มันก็เป็นสปีชีส์ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล ไประนองสโตร์มีแด หรือปลามังกรไร้เกล็ด ด้วยขนาดตัวของมันที่ยาวกว่า 55 cm มันมีลำตัวยาวตัวของมันไม่มีเกล็ด มีสีดำปากขนาดใหญ่ ฟันที่ยาวคล้ายกงเล็บ
โดยส่วนหน้าของขากรรไกรล่าง จะยาวจนทิ่มขากรรไกรด้านบน มันยังมีเงี่ยงขนาดยาวที่คางรวมไปถึงอวัยวะส่งแสงตลอดลำตัวและใต้ตาสองข้างมันสามารถอยู่ในน้ำลึกได้ถึง 5000 เมตร ที่อยู่หลักของมันคือ ออสเตเรีย แต่ก็สามารถเจอได้ในมหาสมุทรทั่วไปถึงจะเป็นต้าวอ้วน แต่ก็เป็นนักล่าที่น่ากลัวได้เหมือนกัน
Mimic Octopus ชื่อไทย หมึกสายเลียนแบบ หรือ หมึกสายพลางตัว พบครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่อินโดนีเซียและยังพบได้ในคาบสมุทรอินโดจีน รวมถึงอ่าวไทยด้วย เมื่อโตเต็มที่มันมีความยาวได้มากกว่า 60 cm
มันเป็นหนึ่งในสัตว์หลายชนิดที่สามารถเล่นแบบสัตว์ชนิดอื่นได้ซึ่งนอกจากการพรางตัวจากนักล่า มันยังใช้การเรียนแบบเพื่อออกล่าเหยื่อได้อีกด้วยมีเพียงมันและญาติของมัน Wonderful หรือชื่อไทยหมึกสายมหัศจรรย์เท่านั้นที่สามารถเลียนแบบเป็นสัตว์ชนิดอื่นมากกว่าชนิดเดียวได้
โดยมันสามารถเลียนแบบเป็นงูสมิงทะเลปากเหลือง ปลาลิ้นหมาไคล์นอย กั้ง และสัตว์อื่นรวมได้ถึง 15 ชนิด โดยไม่ใช่แค่สีเท่านั้นมันอาจใช้หนวดของมันเป็นตัวช่วยในการเรียนแบบด้วย นอกจากนี้มันยังมีความฉลาดและสามารถปรับเปลี่ยนการเล่นแบบตาม
สถานการณ์ได้อีกด้วย เช่น หากมันกำลังถูกรบกวนจากปลาอื่น มันสามารถปลอมตัวเลียนแบบเป็นนักล่าทางธรรมชาติของปลาชนิดนั้น เพื่อไล่มันออกไปได้ โดยทั่วไปมันจะพ่นน้ำเพื่อเคลื่อนที่ไปตามพื้นทราย
เพื่อหาเหยื่อซึ่งจะเป็นสัตว์ขนาดเล็กต่างๆ ที่อาศัยที่มันชอบมาจะเป็นโพลงน้ำหรือตาน้ำ ต่างจากหมึกในตระกูลของมัน ที่มักจะอาศัยตามก้อนหิน หรือที่กำบังต่างๆ นั่นเพราะมันสามารถพลางตัวเป็นสัตว์มีพิษเพื่อความปลอดภัยได้นั่นเอง
The Dumbo Octopus มันเป็นชนิดที่อยู่ในน้ำลึกที่สุดในตระกูลหมึก โดยอยู่ในความลึกอย่างต่ำ 4000 เมตร มันถูกตั้งชื่อตามตัวละครดัมโบ้ของดิสนีย์ เพราะมันมีอวัยวะคล้ายหูขนาดใหญ่ที่ข้างลำตัว
เพื่อการควบคุมทิศทางขณะว่ายน้ำบริเวณหนวดของมันมีแผ่นผังผืดเชื่อมต่อกันคล้ายผ้าคลุม ใช้สำหรับการล่าเหยื่อ ขนาดโดยทั่วไปคือ 20 ถึง 30 cm ทว่าก็มีตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยถูกบันทึกไว้นั่นคือ 1.8 เมตรเลยทีเดียว
มันต่างจากที่ Octopus อื่นที่มันจะไม่สามารถพ่นหมึกได้เพราะมันแทบจะไม่เจอนักล่าทางธรรมชาติของมัน มันจึงละทิ้งความสามารถนี้ไประหว่างการวิวัฒนาการ และ อาศัยการเปลี่ยนสีของตัวมันเองแทน
มันเป็นสัตว์ที่หายากมากมันถึงพัฒนาระบบการสืบพันธุ์ขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาศการอยู่รอด เช่น การที่เพศเมียสามารถสร้างไข่ในวัยต่างๆได้ และ ยังสามารถเก็บสเปิมส์ของตัวผู้เอาไว้ หลังจากที่ผสมพันธุ์แล้วได้เป็นเวลานาน
ทำให้มันสามารถผสมพันธุ์ไข่ได้เมื่อไหร่ก็ตามที่สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสืบพันธุ์และในปี 2021 มีการเกิดสปีชีส์ใหม่ล่าสุดของมันและถูกตั้งชื่อว่า Emperor Dumbo หรือ จักรพรรดิ ดัมโบ้
Black Swallower หรือ จอมเขมือบสีดำ มันมักพบในความลึก 150 เมตรถึง 3900 เมตรโดยตัวที่โตกว่า มักจะอยู่ในที่ลึกกว่า จัดเป็นปลาขนาดเล็กที่ยาวได้สูงสุด 25 cm รูปร่างเพรียวยาวไม่มีเกล็ดสีน้ำตาลไปถึงสีดำ
ปากแหลมและใหญ่มันมีฟันแหลมคมเต็มขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง มันอาศัยในทะเลลึกซึ่งหาได้ยากทำให้มันต้องปรับตัวเพื่อหาอาหารได้มากขึ้น โดยมันสามารถกลืนเอาสัตว์ที่ตัวใหญ่ ด้วยเพราะมันมีลำไส้ที่สามารถขยายได้หลายเท่าตัวจนบางครั้งโปร่งใสจนสามารถมองเห็นภายใน
บางครั้งเหยื่อของมันอาจมีขนาดใหญ่มากส่งผลให้เหยื่อเกิดอาการเน่า ก่อนที่มันจะย่อยทันซะอีกนั่นทำให้กระบวนการนี้สร้างแก๊สขึ้นและทำให้มันลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ เสี่ยงต่อการถูกล่าและอันตรายต่างๆ
ความจริงแล้วมนุษย์ชาติทำการสำรวจทะเลได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นยังมีกี่ 95% ที่เรายังไม่สามารถรู้ได้ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ กันแน่แต่ภายใน 5 เปอร์เซ็นต์นี้ก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงสิ่งมีชีวิตสุดแปลกมากมายที่ชวนขนลุกไม่อยากจะเชื่อว่ามันอาศัยอยู่บนโลกกับเราจริงๆ ดูเสร็จอย่าลืมกดติดตามช่อง พร้อมเหลา ให้ด้วยนะครับ