U28 & CHAMP เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ในสมัยที่โลกกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ณ ท้องทะเล อันเปรียบเสมือนถนนสายใหญ่ของเรือรบต่างๆ ใครจะคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์การค้นพบสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นตำนานเล่าขานในเวลาต่อมา ในชื่อ “U-28” เรามาดูกันเลย
U28 & CHAMP : สิ่งมีชีวิตปริศนา
เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ในสมัยที่โลกกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ณ ท้องทะเลอันเปรียบเสมือนถนนสายใหญ่ของโรคต่างๆ ใครจะคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์การค้นพบสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตัวหนึ่งซึ่งกลายเป็นตำนานเล่าขานในเวลาต่อมาในชื่อ ยู-28
ฟังแล้วดูเหมือนจะเป็นรหัสสินค้าหรือโค้ดเนมอะไรสักอย่างจริงๆแล้วนะจะว่าอย่างนั้นก็ได้นะครับเพราะมันเป็นชื่อของเหลือเยอะมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งใครคิดว่ามันจะถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเรียกของสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าคนหลายคนบนเรือลำนั้น
ปรากฏอยู่บนบันทึกของกัปตันเรือ เชื่อว่ากัปตันคนนี้เขาได้บันทึกเกี่ยวกับการพบสิ่งมีชีวิตตัวนี้ไว้ด้วยสังเกตว่าในวันที่ 30 กรกฎาคมปี 1915 ตัวเขาและลูกเรือจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าวิศวกรนักเดินเรือและผู้ช่วยรวมทั้งสิ้น 7 คน
พบเห็นสัตว์ขนาดยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายจระเข้ขนาดของมันอยู่ที่ประมาณ 60 ฟุตหรือประมาณ 18 เมตร แต่มันโผล่มาให้เห็นเพียงแค่ 10-15 วินาทีเท่านั้นในระหว่างการระเบิดของเรือกลไฟไอ้เรียนของอังกฤษ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเรือ U Boat ของพวกเขาและ น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถบันทึกภาพของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตนนั้นเอาไว้
ภายหลังฉันตั้งข้อสันนิษฐานถึงเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวยักษ์นี่ว่า มันอาจจะเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์อย่างโมซาซอร์ ตัวนี้เป็นสัตว์จำพวกสัตว์เลื้อยคลานทะเล คล้ายกับจระเข้กระดูกสันหลัง ยืดหยุ่น และ คดงอเหมือนการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ยู-21 ตามที่กัปตันเรือบันทึกไว้
หรือไม่มันอาจจะเป็นสัตว์ที่ทางการอังกฤษขนมาทางเรือไอบีเรีย เพราะนักวิจัยบางคนบอกว่าโดยส่วนใหญ่ทั่วไป มักจะวายเว้นระยะห่างจากตัวเรือ ลอยไปตามแรงระเบิดถึงอย่างนั้นก็มีข้อสงสัยตามหาว่ามีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องขนย้ายสัตว์ขนาดใหญ่ขนาดนั้นข้ามน้ำข้ามทะเล
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ยังคงทิ้งปริศนาเอาไว้ ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่พวกเขาเห็นมันคือตัวอะไรกันแน่ และ บวกกับข้อสงสัยของคนในยุคต่อมา ก็คือการที่คนที่เหลือบนเรือลำนั้นภายหลังไม่มีใครเอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เจอสัตว์ขนาดยักษ์นั้นเลยสักคน
เหมือนหลักฐานชิ้นเดียวมีเพียงบันทึกของกัปตัน Flyer giorgia borg warner จึงไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นคือตัวอะไรจะใช่สายพันธุ์เดียวกับจระเข้หรือไม่ หรือ ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นก็จะดูขัดกับ คุณสมบัติที่ดีของกัปตันอย่างหนึ่งที่ว่า ถ้าจะบันทึกเหตุการณ์ที่ค้นพบเจอคนที่เป็นกัปตันจะต้องไม่ใส่สีตีไข่ลงไปในเรื่องราวนั้นเด็ดขาด
ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เราได้ความคิดว่าในโลกใบนี้อาจจะมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อาศัยอยู่ ในทะเลลึก นอกเหนือจากปลาต่างๆ ที่มนุษย์ก็เป็นได้ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับนี่ไว้แต่เขาก็ยังได้อ้างถึงในสิ่งมีชีวิตที่เคยถูกเล่าขานต่อกันมา
รวมถึงยังมีบันทึกเกี่ยวกับการพบเจอมันเช่นเดียวกันกับอยู่นั่นก็คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า แชมป์เรื่องราวของแชมป์อาจจะไม่ได้แตกต่างไปจากอยู่ twenty-eight ตรงที่ว่าเจ้าแชมป์นี้มีผู้คนมากหน้าหลายตาอ้างว่าพบเห็นมันหลายต่อหลายครั้งในรอบ 100 ปี แถมยังมีคนถ่ายภาพไว้ได้ด้วยนะสิ แชมป์ พบเห็นหลายต่อหลายครั้งโดยผู้อาศัยหรือผู้ที่สัญจรไปมาบริเวณทะเลสาบแชมเปญ
ซึ่งตั้งอยู่ในระหว่างนิวยอร์กและเวอร์มอนต์โดยผู้เป็นคนแรกให้สัมภาษณ์อยู่บนหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ช่วงปี 1873 โดยผู้ให้สัมภาษณ์คือพนักงานรถไฟเขาบอกว่าเขาเห็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ เขาตกใจมากจึงรีบวิ่งหนี และ สัตว์ตัวนั้น กับ ว่ายน้ำจากไป
ลักษณะเด่นของมันอีกอย่างก็คือมีเกล็ดสีน้ำเงิน แถมแสงสว่างอีกด้วย มีหัวลักษณะกลมและ แบน มีหนองออกมาจากหัวเหมือนกับหมวกยางของชาวกะลาสี จนมาถึงเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน มีเรือท่องเที่ยวผ่านมาและชนเข้ากับเจ้าตัวนี้ โดยหนังสือพิมพ์ระบุไว้ว่าหัวและคอของมันห่างจากตัวละประมาณ 100 ฟุต หรือ ประมาณ 30 เมตร เลย ว้าวเพื่อนลองพิจารณากันดูสิครับว่าขนาดลำตัวของมันเนี่ยจะใหญ่ขนาดไหน เชื่อไหมครับว่าช่วงนั้นน่ะมีการตั้งค่าหัวการตามล่าตัวมันสูงถึง 50000 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1 ล้าน 8 แสนบาทไทยเลยทีเดียวเชียว
อยากจะลองทายกันดูไหมครับว่าใครที่ต้องการตัวมันมากที่สุดนั่น ก็คือ พิธีบาน่ำ นักแสดงของสะสมเกี่ยวกับสัตว์นั่นเอง เรียกว่าเป็นการลงทุนเพื่อหาผลกำไรในระยะยาวเลยทีเดียวแล้วมีใครเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ตัวนี้อีกหรือไม่
ในปี 1883 มีบันทึกเพิ่มเติมจากนายอำเภอท่านหนึ่งพบสัตว์ขนาดประมาณ 25-35 ฟุตหรือประมาณ 8-10 เมตร ในปี 1887 เด็กทำฟาร์มคนนึงพบสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งเสียงคล้ายกับเรือกลไฟ อยู่ในทะเลที่ห่างออกไปราว 1 ไมล์ และ ในปีเดียวกันพบเห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ประมาณ 25 ฟุตหรือประมาณ 8 เมตร ซึ่งตัวค่อนข้างใหญ่พอสมควร
ในปี 1970 มีผู้พบเห็นเพิ่มขึ้น 2 คนคือนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปแถวนั้น โดยนักท่องเที่ยวกล่าวว่าสัตว์ที่เขาเห็นมีลักษณะ เป็นสีน้ำตาลเข้มรูปร่างคล้ายๆกับลำกล้องปืน คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าสิ่งมีชีวิตนั้นคล้าย ๆกับงูตัวใหญ่มันว่ายน้ำ โดยที่หัวมันโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเคลื่อนไหวกดมั่วๆเหมือนกับงู
ในขณะเดียวกันคุณครูสอนวิชาสังคมศึกษาและทีมเขาก็ได้รวมกลุ่มกันมาสังเกตการณ์ที่ทะเลสาบและสำรวจโดยใช้อุปกรณ์สำหรับว่ายน้ำและวิวหุ่นยนต์ขนาดเล็ก ก็ไม่พบหลักฐานที่จะช่วยพิสูจน์เรื่องนี้ได้เลย ภาพของแชมป์ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อคู่รักน้ำขุ่นแมนซิถ่ายภาพของสัตว์ตัวหนึ่งได้ตอนที่ไปเยี่ยมญาติแถวทะเลสาบ และ ตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นภาพของแชมป์
ดูแล้วเป็นอวัยวะของสัตว์น้ำชนิดใดชนิดหนึ่งก็ได้นะ มันอาจจะเป็นแชมป์ก็ได้ รูปถ่ายจากเพื่อนของแมนซิตี้ในปี 1980 ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาออกมาเผยแพร่ แต่เพื่อนคนนี้ได้เป็นอัลบั้มรูปเข้า และ นึกถึงสลิงกี้ที่กำลังทำวิจัยเรื่องนี้อยู่ขึ้นมานำภาพนั้นมา สืบค้นต่อและนำมาปรึกษานักสัตว์วิทยา
นักสัตว์วิทยากล่าวไว้ว่ามันไม่เหมือนกับสัตว์ในทะเลสาบที่เกิดรู้จักมาก่อนเลย ไม่ละความพยายามเขา ได้นำภาพนั้นไปถามผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ อีกหลายคน และ มีผู้เชี่ยวชาญคนนึงจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ชื่อ raven กล่าวว่าถ้าประมาณขนาดของสัตว์ตัวนี้จากรอยคลื่นน่าจะเป็นสัตว์ที่ใหญ่ๆ 24 ฟุต หรือ ประมาณ 7 เมตร และ ยาวประมาณ 78 ฟุตหรือประมาณ 24 เมตร
จนท้ายที่สุดในปี 1981 แม็คโครผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ที่สูญพันธุ์ได้เดินทางไปที่ทะเลสาบแชมเปญ และ กล่าวว่าดังกล่าวน่าจะเป็นจำพวกโปรตอนซึ่งจะมีลักษณะคล้ายหวานและตัวยาวเหมือนงู โดยเป็นการสันนิษฐาน ที่สอดคล้องกับคำให้การของผู้พบเห็นหลายๆคนยกเว้นรูปถ่ายของแมนซิตี้
แม้แต่ลูกก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าพระเจ้ามีจริงไหมและหน้าตาก็มันเป็นอย่างในรูปหรือเปล่า ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันนะว่าไอ้แชมป์ กับยู-28 มีจริงหรือไม่
สำหรับใครที่ชอบเนื้อหาแบบนี้ สามารถติดตามพวกเราชาว พร้อมเหลา ไว้ด้วยนะครับ มีเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจอีกเยอะ ชอบหรือไม่ชอบยังไงสามารถแสดงความคิดเห็นได้นะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย