ตำนาน Pandora’s Box กำเนิดผู้หญิงคนแรกของโลก

Pandora's Box

ตำนาน pandora box คือเรื่องของผู้หญิงคนแรกของโลก ที่อยากรู้อยากเห็นจนเกิดเหตุวุ่นวายไปทั่ว แต่เธอเป็นคนผิดจริงหรือไม่ และใครคือเบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ ทุกท่านลองเข้ามาอ่านเนื้อหากันได้เลยที่นี่ พร้อมเหลา ขอนำเสนอ

กำเนิด ผู้หญิงคนแรกของโลก

นานมาแล้วมีกล่องวิเศษกับเก็บสิ่งเลวร้ายทั้งหลายในโลกเอาไว้ ทว่ามันกลับถูกเปิดออกได้หญิงสาวคนหนึ่ง ส่งผลให้สิ่งเลวร้ายเหล่านั้นออกสู่โลกมนุษย์ นั่นคือตำนานของ Pandora Box จนเกิดการตั้งคำถามที่ว่า หากหญิงสาวคนนั้นไม่แตะต้องกล่องใช่ปัญหานี้ โลกก็คงไม่ต้องพบเจอกับความวุ่นวายแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่มันใช่แบบนั้นแน่หรือเปล่า ตำนานกล่องแพนโดร่าเป็นตำนานจากฝั่งกรีกโดยเป็นชื่อของมนุษย์หญิงคนแรกของโลก ซึ่งคำว่าแพนโดร่าแปลได้ว่าผู้ได้รับของขวัญทั้งมวล จุดกำเนิดของเธอนั้นย้อนกลับไปก่อนหน้า โพเมทีอูส ได้ขโมยเอาไฟไปจากพระเจ้าและนำไปมอบให้กับโลกมนุษย์ และนั่นจึงทำให้เทพซูสราชาแห่งเหล่าทวยเทพโกรธ และต้องการลงโทษของโพเมทีอูสและชาวโลก ซูสจึงมีคำสั่งให้เทพแห่งไฟและงานฝีมือ อย่าง เทพมีฟีซัต สร้างมนุษย์ผู้หญิงขึ้นบนโลก หรือเธอจะรับหน้าที่ล่อลวงให้เราได้พบเจอแต่ความวุ่นวายในภายหลัง อีฟีซัต จึงผสมดินและน้ำพร้อมกับหล่อขึ้นมาเป็นรูปของสาวงามคนหนึ่ง ที่สวยสดเท่ากับเทพธิดาก่อนที่เทพคนอื่นๆร่วมด้วย

และช่วยสร้างเธอขึ้นมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เทพอะธีน่าได้มอบชุดสีเงินงดงาม พร้อมกับสอนวิธีการทอผ้าหรือเย็บปักถักร้อย ตามด้วยเทพอโพไดได้มอบความสง่างามและความเป็นที่ปรารถนาให้ เทพเพอเมตที่ได้คำสั่งจากซูสให้มอบจิตใจที่ดื้อรั้นหลอกลวงและอยากรู้อยากเห็นเข้าไปด้วย รวมถึงการทำให้พูดได้ แต่คำพูดก็เต็มไปด้วยคำโกหกเจ้าเล่ห์ เทพีทั้งสาม คาลีคีต และเทพีเพโทต มอบสร้อยคอทองคำและผมที่ยาวสลวย จากนั้นเทพโฮเลไปประดับดอกไม้ให้กับเธอ และท้ายสุดเทพเพอเมตจึงได้ตั้งชื่อเธอว่าแพนโดร่า ผู้ซึ่งได้รับของขวัญจากเทพทั้งหลายเพื่อให้เกิดมาเพื่อสร้างความวุ่นวาย แพนโดร่า จึงกลายเป็นผลงานชั้นยอดของเหล่าทวยเทพ ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามแต่ก็แอบแฝงด้วยถ้าไม่พึงประสงค์ซ่อนอยู่ภายใน จากนั้น Pandora จึงถูกส่งลงมายังโลกมนุษย์โดยมอบให้แต่งงานกับ เอพีมีทีอูส น้องชายของ atos ทั้งที่พี่ชายห้ามไว้ว่าไม่ให้รับของขวัญใดๆจากเทพอย่าง ซูส แต่เอพีมีทีอูสก็ไม่อาจปฏิเสธหญิงสาวที่งดงามทัดเทียมกับเทพธิดาได้

เพราะว่าสิ่งที่จะก่อปัญหาจริงๆนั้นไม่ใช่แค่ลักษณะนิสัยของแพนโดร่าเท่านั้น เพราะเธอได้พกเอาโถที่ถูกเรียกว่าไททอส โดยโถนี้รวบรวมว่าสิ่งที่เลวร้ายทุกอย่างเอาไว้ และซูสมอบหมายให้กับเธอโดยไม่ได้บอกเธอว่าด้านในมีอะไร เพียงแค่กำชับไว้ว่าห้ามเปิดเด็ดขาด ซึ่งภายหลังโถภิทอสนี้ถูกแปลแล้วเข้าใจผิดไปว่าเป็นกล่อง กลายเป็นที่มาของชื่อแพนโดร่าบ็อกซ์ เมื่อเวลาผ่านไปความสงสัยใคร่รู้ของแพนโดร่าก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอทนไม่ไหวแล้วตัดสินใจเปิดดูด้านในของโถ ในบางตำนานกล่าวว่าเอพีมีทีอูสผู้เป็นสามีครอบครองกุญแจเอาไว้ และไม่ยอมให้แพนโดร่าไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนแค่ไหน แต่สุดท้ายเธอก็แอบเอามันไปในตอนที่สามีของเธอนอนหลับ และเปิดโถนั้นออกได้อยู่ดี ทันทีที่ฝาถูกเปิดออกความเลวร้ายต่างๆก็เริ่มออกมา อาชญากรรม ความเจ็บป่วย ความเกลียดชัง ความอิจฉา ความกังวล และอื่นๆ ด้วยความตกใจแพนโดร่าจึงรีบปิดฝาทันที แต่สิ่งเลวร้ายต่างๆก็หลุดออกไปจนเธอแก้ไขอะไรไม่ได้ สิ่งที่ยังเหลืออยู่ในโถนั้นมีอยู่เพียงแค่อย่างเดียว นั่นคือ

ความหวังและนี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเสื่อมถอยของยุคทอง ที่มนุษย์บังอาจทำให้เทพเจ้าโกรธเลย โดนตอบแทนด้วยการสร้างผู้หญิง ด้วยจุดประสงค์ของการลงโทษมนุษย์นั่นเอง เรื่องราวของแพนโดร่าอย่างคล้ายคลึงกับตำนานของอีฟจากคัมภีร์ไบเบิล โดยทั้ง 2 คน เป็นผู้หญิงคนแรกของโลกเหมือนกัน เป็นผู้ที่ทำเรื่องต้องห้ามจนกลายเป็นจุดสิ้นสุดของยุคแห่งความสงบสุขเหมือนกัน ทำให้ภาพลักษณ์ของพวกเธอกลายเป็นผู้ที่สร้างความผิดพลาดครั้งใหญ่ โดยเกิดขึ้นจากความสงสัยใคร่รู้ของพวกเธอเพียงลำพัง ชื่อของแพนโดร่าจึงถูกมองไม่ดีนัก และกลายเป็นตัวแทนของจุดเริ่มต้นแห่งความโกลาหลทั้งมวล แต่หากมองกันด้วยมุมมองในปัจจุบัน จะเห็นว่าแพนโดร่าเป็นเพียงแค่เครื่องมือเท่านั้น เธอถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความต้องการของซูส เธอถูกมอบลักษณะนิสัยสนใจใคร่รู้เข้าไป แต่กลับมอบต้องห้ามให้โดยบอกว่าห้ามเปิดเท่านั้น ทำให้มองยังไงนี้ก็ดูเป็นความตั้งใจทั้งสิ้นและ Pandora ก็เป็นแค่เครื่องมือที่ทำตามแผนการที่คาดเอาไว้อยู่แล้ว

เพราะซูสก็ตั้งใจจะลงโทษมนุษย์จากความผิดโทษฐานขโมยเอาสิ่งที่เป็นของเหล่าเทพไป ซึ่งในยุคสมัยก่อนการฝ่าฝืนหรือท้าทายอำนาจของเทพเจ้า ยังถูกมองเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอยู่ แตกต่างกันกับมุมมองในสังคมปัจจุบันที่มองในแง่ของเหตุและผลมากกว่า จึงทำให้เกิดเป็นมุมมองการตีความที่หลากหลายมากขึ้น แพนโดร่าที่ละเมิดข้อห้ามจากความอยากรู้อยากเห็น เอพีมีทีอูส ที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนของพี่ชายและหลงใหลไปกับรูปร่างของหญิงสาว โพเมทีอูสที่ขโมยเอาสัญลักษณ์ของการขัดขืนต่ออำนาจของผู้ที่อยู่สูงกว่า หรือซูสและเหล่าทวยเทพที่จงใจทำลายความผาสุกของมนุษย์ หรือสุดท้ายแล้วแพนโดร่าจะเป็นการสะท้อนว่า การต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายและความวุ่นวายต่างๆนั้น ก็เพราะความสงสัยใคร่รู้ของมนุษย์เอง แม้เรื่องราวของแพนโดร่าจะโด่งดังและเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน แต่เดิมทีแล้วแพนโดร่าเคยได้รับการเชิดชูเป็นหนึ่งในเทพี แบบเดียวกับเทพีแห่งปัญญาและสงครามอย่างอาเทอร์น่าหรือเทพีแห่งแผ่นดินไกอา

แต่เมื่อเวลาผ่านไปชื่อเสียงของเธอก็เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ กระทั่งเกิดเป็นเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมา ตำนานของแพนโดร่าในแบบต้นฉบับแรกสุดนั้น มาจากกวีชาวกรีกอย่าง harris ซึ่งเป็นหนึ่งในกวีที่สำคัญมากของกรีกยุคโบราณ เช่นเดียวกันกับโฮเมอร์ เขาเล่าเรื่องราวของแพนโดร่าในบทประพันธ์ Work And Day ซึ่งมีอายุเก่าแก่เกือบ 3000 ปี ยังไม่แน่ชัดว่าทำไมเฮชีอัสถึงเลือกเขียนเรื่องของเธอในแง่ลบ แล้วทำให้ความศรัทธาในตัวแพนโดร่าตกต่ำลงไป โดยที่เชื่อว่า hazes ก็ตั้งใจทำให้แง่มุมของเธอเปลี่ยนไปด้วย เมื่อมองจากผลงานและการกล่าวถึงผู้หญิงแล้ว จึงเกิดมีความคิดที่ว่าจริงๆแล้ว hazes อาจเป็นคนที่เข้าข้างฝ่ายชายมากกว่า ผลงานของเขาที่มีมุมมองต่อผู้หญิงที่แตกต่างกันกับสังคมปัจจุบันอย่างชัดเจน

การตีความตำนานต่างๆจึงควรจะเป็นในแง่ของการสะท้อนคติ และมุมมองของบุคคลและยุคสมัยต่างๆเท่านั้น แม้ตำนานเรื่องราวต่างๆ จะเคยเป็นเครื่องมือในการสอนคติธรรมความคิดให้กับผู้คน แต่เมื่อเวลาและสังคมโลกนั้นเดินหน้าเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เรื่องราวและมุมมองในแง่หนึ่งก็อาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นอีกมุมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ นั่นเอง ติดตามผลงานต่างๆ เรื่องราว เรื่องหลอน ประวัติศาสตร์ ได้ที่นี่ พร้อมเหลา

ใส่ความเห็น