shroud of Turin ผ้าห่อศพที่มีใบหน้าพระเยซูติดอยู่ 2000 ปี

shroud of Turin

shroud of Turin ผ้าผืนหนึ่งปรากฎเป็นรูปของชายปริศนา ที่ว่ากันว่าคือหน้าตาของพระเยซูในสมัยกว่า 2000 ปีที่แล้ว แต่จะเป็นแบบนั้นจริงๆน่ะหรือ เรามาหาคำตอบกัน

shroud of Turin ผ้าห่อศพที่มีใบหน้าพระเยซู

ภาพพื้น 1 ปรากฏเป็นรูปของชายปริศนาที่ว่ากันว่าคือหน้าตาของพระเยซูในสมัยกว่า 2000 ปีที่แล้วแต่จะเป็นแบบนั้นจริงหรือปลอมเราแต่งตัวเรียนนั้นคือผ้าที่มีร่องรอยเลือดในร่างกายของมนุษย์

โดยเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าทั้งหน้าและหลังต้องรอดังกล่าวแสดงให้เห็นชายคนหนึ่งที่น่าจะเสียชีวิตลงหลังจากถูกตรึงบนไม้กางเขนซึมจากรอยนี้เองที่ผู้คนนั้นเชื่อว่าเป็นใบหน้าและร่างกายจากศพของพระเยซูช่วงที่ถูกนำไปไว้ในอุโมงค์

ก่อนที่ 3 วันถัดมาพระเยซูฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งตามบันทึกในคัมภีร์ไบเบิลคืนนี้มีความยาวกว่า 4 เมตรและกว้างยาว 1 เมตรโดยมีแถบผ้ากว้าง 8 เซนติเมตรเย็บติดเอาไว้ตามแนวยาวซึ่งตามตำนานที่มาของผ้านั้นเราย้อนกลับไปถึงปีคริสตศักราช 30 หรือ 33 จาก Junior บริเวณที่เชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของพระเยซูโดยมันถูกนำออกมาอย่างลับหลังพระเยซู

สิ้นพระชนม์ก่อนที่ผ้าห่อศพนี้จะถูกนำไปไว้ที่ตุรกีในเมือง esr และคอนสแตนติโนเปิลหรืออิสตันบูลในปัจจุบันซึ่งตามตำนานผ้านี้ถูกเก็บไว้ที่นั่นนานกว่าพันปีกระทั่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกนักรบครูเสดตีแตกในปี 1204 ผ้าคืนนี้จะถูกปล้นเอาไปไว้ที่กรุงเอเธนส์ประเทศกรีซและเก็บรักษาไว้อย่างดีถึงปี 1225 Lava

กว่าที่ศาสนจักรคาทอลิกจะบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก็เป็นเวลากว่า 100 ปีนั่นคือเมื่อมันให้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้งในบทเล็กๆของเมืองอะไรที่ฝรั่งเศสในปี 2553 จากนั้นในปี 2453 เกิดการเปลี่ยนกลายเป็นของคุณนายแห่งราชวงศ์ซาวอยตรงที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งปกครองบริเวณฝรั่งเศสและอิตาลีจากนั้นภาพคืนนี้จึงถูกนำไปไว้ยังเมืองต่างๆในยุโรปหลายแห่ง

กระทั่งปี 2578 มันถึงถูกนำไปไว้ยังเมืองตูรินของอิตาลีและอยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้ภาพคืนนี้ถูกจัดแสดงให้สาธารณะได้เห็นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 เพื่อให้บุคคลอื่นได้เข้ารับชมภาพที่เชื่อกันว่าเป็นผ้าห่อศพของพระเยซูด้วยหน้าตาของบุคคลที่ปรากฏบนผ้านั้นเหมือนกันกับลูกรักของพระเยซูและภาพวาดรูปปั้นและความทรงจำของคนทั่วไป

ผ้าห่อศพของจุลินทรีย์เสื่อมสภาพลงตามเวลาโดยเฉพาะการเสียหายจากไฟไหม้ในคริสตจักรแห่งเคเบอรี่ปี 2532 มันจึงถูกซ่อมแซมหลายต่อหลายครั้งและได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในปี 2002 โดย Holy see หรือสังกัดสำนักแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกผู้ครอบครองในปัจจุบันจากการซ่อมแซมนี้ทำให้สามารถสแกนและถ่ายรูปร่องรอยผ้า

ทั้งด้านในและด้านนอกได้รวมถึงการที่จะสามารถใช้เครื่องมือต่างๆช่วยให้สามารถศึกษารายละเอียดที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้เพื่อตอบคำถามที่ว่านี่เป็นภาพที่ใช้ห่อศพพระเยซูครั้งที่ถูกบรรจุอยู่ในอุโมงค์จริงหรือไม่จริงๆแล้วประวัติที่มาของผ้าผืนนี้ตั้งแต่ปี 1353 ในโบสถ์เมืองใดที่นั้นถูกบันทึกไว้ค่อนข้างละเอียดแต่ประวัติก่อนหน้านั้นเป็นเพียงการสันนิษฐานจากนักวิชาการโดยอาศัยตำนานหรือบันทึกต่างๆซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าผ้าที่มีการบันทึกไว้นั้นเป็นผืนเดียวกันกับผ้าห่อศพแห่งตูรินหรือไม่ในทางวิทยาศาสตร์มีการวิจัยเก็บตัวอย่างหลากหลายวิธี

เพื่อหาคำตอบว่ามันเป็นของจริงหรือไม่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เช่นการวิจัยว่าลอยบนผ้านั้นเกิดจากร่างกายมนุษย์หรือจากการใช้สีหรือเครื่องมือต่างๆทางขึ้นแม้จะได้คำตอบว่าเกิดจากอนุภาคเม็ดสีออกไซด์จากเหล็กแต่นั่นก็คืออาจจะมาที่จากทั้งสีเลือดของมนุษย์หรือการใช้วิธีสืบหาอยู่ที่แท้จริงว่าผ้าผืนนี้มีอายุเท่าไหร่การทดลองในปี 1988 โดยการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีก็ได้คำตอบที่ว่ามันน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปีค.ศ 1260 ถึง 1390 ซึ่งนั่นคือหลังจากพระเยซูสิ้นพระชนม์ไปกว่าพันปีและเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีบันทึกรายลักษณ์อักษรครั้งแรกของวัตถุชิ้นนี้

แม้จะมีคนออกมาตั้งข้อสังเกตหลายๆอย่างแย้งกันกับข้อมูลนี้แต่ก็ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกัมมันตรังสีคาร์บอนคนไหนที่ออกมายังข้อมูลที่ได้เลยและการจะใช้วิธีเดิมหาอายุอีกครั้งก็เสี่ยงที่จะทำให้ผ้าที่เก่าแก่นั้นเสียหายได้ขณะที่มีการทดลองอีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาในอิตาลีอ้างว่ามันอาจจะมีอายุเก่าแก่ถึง 2000 ปีจริงๆแต่ก็ยังมีข้อขัดแย้งอื่นๆอีกเช่นลายผ้านั้นเป็นแบบก้างปลาหรือ herringbone ซึ่งเป็นวิธีทอผ้าที่เกิดขึ้นในยุคกลางไม่ใช่ยุคเดียวกันกับพระเยซูอีกเรื่องคือรูปร่างที่ปรากฏอยู่บนผ้านั้นถูกจำลองเรียนแบบขึ้นหลายๆครั้ง

โดยผู้ทดลองอ้างว่าเป็นไปไม่ได้ที่ร่องรอยจะเกิดขึ้นแบบในภาพนะได้เห็นบางรายนั้นต้องถูกจัดให้อยู่ในท่ายืนเท่านั้นหรือหลอดเลือดที่เกิดจากการโดนแทงนั้ นควรจะเป็นรอยเลือดไหลเล็กๆไม่ใหญ่พอที่จะเกิดรอยบนผ้าได้ หรือรอยที่ไม่น่าเกิดจากการสัมผัสของผิวและผ้าเป็นต้น ดังนั้นนักวิจัยยังคงต้องหาคำตอบกันต่อไปเพื่อจะพิสูจน์ให้ได้ว่านี่เป็นของจริงหรือไม่จริงกันแน่แต่ไม่ใช่แค่ในทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นในฝั่งคริสตศาสนาเองก็มีการวิเคราะห์มรดกชิ้นนี้ด้วยเช่นกันแม้จะมีหลายคนเชื่อว่านี่จะเป็นของจริง

และนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากความเชื่อที่ว่ามันเกี่ยวข้องกับพระเยซูแต่ก็มีหลายๆครั้งที่บุคคลสำคัญทางศาสนานั้นออกมาบอกว่านี่เป็นของปลอมและเชื่อถือไม่ได้อยู่ที่ถูกมองว่าไม่ตรงกันกับในคัมภีร์ไบเบิลคือลักษณะการดูแลศพของพระเยซู เช่น ผ้าที่ใช้ ใช้ผ้าใหญ่ผืนเดียวและยึดติดด้วยภาพผืนเล็กยาวอีก 1 ผืนพันตั้งแต่หัวจรดเท้าซึ่งต่างกับที่มีบันทึก

ไว้ว่าถ้าที่กลุ่มส่วนหัวของพระเยซูนั้นถูกหวยไม่ต่างหากจึงต้องเป็นผ้าคนละผืนกับที่ใช้ห่อตัวไม่ได้อยู่รวมกันบันทึกล่าสุดที่กล่าวว่าเป็นของปลอมนั้นมาจากพี่ 1389 โดยมิชอบแห่งทัวร์ในสงสารให้กับแฟนติพบที่ 7 เขากล่าวว่าผ้าผืนนี้ถูกทำขึ้นมาอย่างไรโดยอ้างว่ามีการยืนยันจากศิลปินที่สร้างมันขึ้นมาว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำขึ้นไม่ได้เกิดจากปาฏิหาริย์ 1 ปีหลังจากนั้นเพลงวงที่ 7 จึงประกาศให้วัตถุเช่นนี้เป็นเพียงสิ่งที่สร้างขึ้นและไม่ใช่ของจริงทว่าปี 2562

กลับประกาศสู่สาธารณะยอมรับว่าเป็นของจริงหลังจากนั้นเป็นต้นมามีบุคคลสำคัญทางศาสนากล่าวถึงผ้าห่อศพนี้ต่างกันออกไปทั้ง 2 ฝั่งนึงทางศาสนจักรประกาศว่ายินดีให้มีการพิสูจน์ต่อไปเพื่อให้เกิดข้อสรุปที่พึงพอใจต่อทุกฝ่ายแต่ก็ไม่ได้มีการปฏิเสธหรือยอมรับผ้าห่อศพแห่งตูรินอย่างเป็นทางการและในปี 2022 นี่เองมีการจำลองรูปร่างของพระเยซูขึ้น

โดยยึดเอาผ้าห่อศพแห่งตูรินนี้เป็นต้นแบบด้วยแม้จะมีการกล่าวว่ารูปร่างบนผืนผ้านั้นไม่ตรงกับสิ่งที่ควรจะเป็นก็ตามปัจจุบันผ้าห่มในตู้เย็นนั้นถูกจัดเก็บไว้ในมหาวิหารแห่งตูรินประเทศอิตาลีโดยเนื่องจากสภาพที่เก่าแก่และเสี่ยงต่อความเสียหายจึงถูกจัดเก็บเอาไว้ในกล่องควบคุมพิเศษและไม่เปิดให้สาธารณะได้ชมด้วยการศึกษาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันข้อมูลนั้นอาจทำให้สรุปได้ว่าผ้าห่อศพแห่งตูรินนอกจากจะไม่ใช่ผ้าห่อศพของพระเยซูแล้วมันอาจจะไม่ใช่ผ้าห่อศพของจริงซะด้วยซ้ำแต่เมื่อยังไม่มีหลักฐานสุดท้ายที่ชัดเจนจริงๆผ้าห่อศพแห่งตูรินก็ยังเป็นมรดกตกทอดทางศาสนาต่อไป

เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องที่ทางเราได้นำเสนอออกไป ใครที่ชอบหรือไม่ชอบยังไงสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยนะครับ สำหรับใครที่อยากจะดูเรื่องเกี่ยวกับอะไร สามารถบอกเข้ามาได้เลย สุดท้ายนี้อย่าลืมกดติดตาม พร้อมเหลา ไว้ด้วยนะครับ

ใส่ความเห็น