GODZILLA สัญลักษณ์ แห่งโศกนาฏกรรมนิวเคลียร์

GODZILLA

GODZILLA ก็อตซิลล่า สัตว์ประหลาดพ่นไฟ ความทรงจำวัยเยาว์ของใครหลายๆ คน กับภาพจำในการทำลายล้างเมืองให้ราบเป็นหน้ากลองด้วยตัวที่ใหญ่มหึมา จะเป็นยังไงมาดูกัน

GODZILLA : สัญลักษณ์แห่งโศกนาฏกรรมนิวเคลียร์

Godzilla สัตว์ประหลาดพ่นไฟความทรงจำในวัยเยาว์ของใครหลายๆคนก็ภาพจำในการทำลายล้างเมืองเป็นหน้ากลองในตัวที่ใหญ่และการพ่นไฟ

วันนี้เรามาในเรื่องราวของสัตว์ประหลาดยอดนิยมตลอดกาลกี่ดอกจะอยู่นี่นานแล้วยังมีของเล่นมีสติ๊กเกอร์และของสะสมต่างๆออกมามากมายเจ้าสัตว์ประหลาดที่ว่านั่นคือGodzilla ผมเชื่อนะครับว่าแม้คุณจะไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องก็อตซิลล่าเลยก็ต่างก็น่าจะรู้จักหรือเคยเห็นมันที่บ้านเหมือนไดโนเสาร์เลยชอบคนไว้นั่นแหละจบจากรูปร่างหน้าตาของมันที่หน้าสนใจแล้วจริงๆอ่ะปากมันน่าสนใจมากๆเลยนะครับผมยังไง

เราลองมาฟังกันเลยดีกว่าGodzilla ที่ดูเหมือนไดโนเสาร์แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ไดโนเสาร์นะครับถึงแม้ว่าบางทีคนจะเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นที่เล็กที่ตัวใหญ่มากกว่าปกติแต่มันเป็นเพียงแค่ตัวละครที่เป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1954 เท่านั้นทั้งนี้ภาคแรกของภาพยนตร์หรือก็อตซิลล่าปี 1954 ก็บอกเราเป็นนัยๆแล้วนะว่า Godzillaไม่ใช่ไดโนเสาร์

แต่อย่างใดถึงแม้ว่าภาคต่อๆมาจะมีการเสริมเติมแต่งให้ก็อตซิลล่าตัวอื่นมีลักษณะคล้ายคล้ายไดโนเสาร์ก็เถอะ Godzillaถูกสร้างขึ้นโดยผู้กำกับชาวญี่ปุ่น Honda แต่ไม่ได้ชื่อGodzilla ตั้งแต่แรกนะครับมันถูกตั้งชื่อจากภาษาญี่ปุ่นว่าจิระมาจาก 2 คำคือ colima หรือกอลิล่าและคู่ชีวะที่แปลว่าวานนั่นเองก่อนจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นก็อตซิลล่าเพื่อให้ออกเสียงภาษาอังกฤษง่ายขึ้นเมื่อฝังอเมริกาซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์มาเปล่าคือโกจิระคือ Godzilla ที่ออกเสียงแบบสำเนียงญี่ปุ่นนั่นเองGodzilla

ถูกสร้างขึ้นหลายต่อหลายครั้งจนมีภาพยนตร์เกี่ยวกับGodzilla จนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 37 เรื่องที่ว่าเยอะมากๆเลยนะครับในส่วนของเบื้องหลังก็อตซิลล่านั้นค่อนข้างน่าสนใจในแง่ของสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่นั่นเพราะภาพยนตร์Godzilla ทั้งหลายคือตัวแทนที่บอกเล่าเรื่องราวความบาดหมางระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ได้เป็นอย่างดีในช่วงที่อเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูที่เกาะฮิโรชิม่านางาซากิญี่ปุ่นต้องพบเจอกับความสูญเสียและประชาชนต้องอยู่กับความหวาดกลัวจากร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นครั้งแรกแต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของความสูญเสียอเมริกาซ้ำรอยแผลของพวกเขาอีกครั้งด้วยการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในปี 1954

ซึ่งหนึ่งในอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกาในตอนนั้นมีชื่อว่าเดอะคาสเซิล Bravo ได้ถูกทดสอบวันเดียวกับที่เหลือ Lucky Dragonตกปลาของญี่ปุ่นแล่นออกสู่ท้องทะเลซึ่งเรือลำนี้บรรทุกคนจำนวน 23 ชีวิตออกเรือมากลางทะเลและได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือเรือทั้งลำได้รับกี่เท่าของกัมมันตภาพรังสีส่งผลให้ทุกคนในเรือป่วยเป็นโรครังสีเฉียบพลัน acute radiation Syndrome

ซึ่งอาการของโรคนี้จะทำให้ผู้ป่วยปวดหัวคลื่นไส้อาเจียนมีเลือดออกในทางเดินอาหารถึงแม้เหตุการณ์นี้อเมริกาญี่ปุ่นเหมือนครั้งในสงครามแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมากจนเกิดการต่อต้านการทดลองนิวเคลียร์ก่อนจะทำการทดลองรัฐบาลของฝั่งอเมริกาประกาศเตือนช่วงที่ทดลองนิวเคลียร์ระยะ 140000 7629 ตารางกิโลเมตรหรือเป็นอันตรายก็จริง

แต่ก็ไม่ได้คำนึงถึงอานุภาพของอีกครั้งซึ่ง Bravo ซึ่งรุนแรงกว่าที่คิดมากๆและนั่นทำให้ทางญี่ปุ่นสร้างภาพยนตร์ที่จะสามารถสะท้อนความน่ากลัวความรุนแรงของอาวุธชีวภาพและการต่อสู้ดิ้นรนของประชาชนในญี่ปุ่นแม้ภาพยนตร์Godzilla จะไม่ได้บอกตรงๆว่ากำลังเล่าเรื่องการถูกรุกรานจากอเมริกา

แต่ก็ได้ถูกซ่อนเนื้อหาที่เกิดขึ้นจากการนำเหตุการณ์จริงเข้ามาด้วยเช่นตัวละครที่ปรากฏในภาพยนตร์ก็อตซิลล่าปี 1954 มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งชื่อว่าดรเซริซาวะเป็นผู้คิดค้นวิธีฆ่า Godzilla ด้วยการใช้ออกซิเจนซึ่งจริงๆแล้วเป็นการสร้างตัวละครจากนักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน J Robert oppenheimer ประดิษฐ์ระเบิดอะตอมมิคขึ้นมาจริงๆ

ในสายตาของทหารอเมริกัน Robert oppenheimer Card เป็นอัจฉริยะสำหรับชาวญี่ปุ่นเขาคือผู้อยู่ในจุดเริ่มต้นของความหายนะเพราะอาวุธที่เขาประดิษฐ์ขึ้นท้ายที่สุดได้ถูกนำมาใช้ในสงครามซึ่งสร้างความเสียหายให้ญี่ปุ่นมากมายมหาศาลทั้งนี้ในภาพยนตร์แต่เล่าต่อว่าดอกเตอร์ยอมสละชีวิตเพื่อให้ก็อตซิลล่านั้นตายไปพร้อมกับตนเองGodzilla จะได้ไม่ต้องกลับมาทำร้ายชาวเมืองคนดีๆได้

และจุดนี้เองอาจจะเป็นการสะท้อนถึงลักษณะนิสัยของคนญี่ปุ่นในช่วงสงครามต้องเสียสละและเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนแม้จะต้องแลกกับชีวิตของตนเองก็ตามถึงแม้ก็อตซิลล่าจะได้ตายไปจริงๆแต่ตัวละครอีกตัวในภาพยนตร์ก็ได้พูดขึ้นมาว่าตราบใดที่ยังมีการทดลองอาวุธที่แสนอันตรายเช่นนี้อยู่ก็อตซิลล่าตัวใหม่ๆก็อาจจะโผล่ขึ้นมาอีกในที่ใดที่หนึ่งช่วยลบใครทำให้ภาพของภาพยนตร์Godzilla ที่เกิดจากความตั้งใจของทางญี่ปุ่นไม่ได้ต้องการนำเสนอด้านการเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดทำลายล้างเพียงอย่างเดียว

จะยังเป็นภาพยนตร์ที่ต่อต้านสงครามการทดลองอาวุธและถ่ายทอดสภาพความเป็นอยู่ความหวาดกลัวต่อสงครามของประชาชนชาวญี่ปุ่นและสร้างความร่วมมือร่วมใจในการต่อต้านอำนาจทีอาจจะอยู่เหนือความสามารถของมนุษย์และชาวญี่ปุ่นกับพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับหมัดแน่นอนว่าเมื่อก่อนที่ทางที่คุณสร้างขึ้นมาเป็นภาพแทนของการที่จะเข้ามาทำลายประเทศญี่ปุ่นด้วยพุทธานุภาพรุ่นแรกพ่ออเมริกานำมาใช้ในบ้านตัวเองจึงมีการตัดทอนเนื้อหาเกี่ยวกับนิวเคลียสบางส่วนออกจากภาพยนตร์ถึง 40 นาที

และถึงขั้นรีวิวภาพยนตร์Godzilla บนนิวยอร์กไทมส์ในปี 1956 บอกไว้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในหมวดหมู่ภาพยนตร์สยองขวัญราคาถูกน่าเสียดายภาพยนตร์ดีๆหลอกเด็กและผู้ใหญ่ด้วยราคานี้ซึ่งทางเราก็ลองไปค้นคว้าหาข้อมูลมาว่าราคาตั๋วภาพยนตร์ในสมัยนั้นจะราคาประมาณเท่าไหร่ปรากฏว่ากับใครรีวิวคนที่เคยดูก็อตซิลล่าในโรงภาพยนตร์พูดว่าราคาตั๋วในช่วงนั้นประมาณไม่ถึง 1 ดอลลาร์หรือประมาณ 30 บาทไทยนั่นเอง

ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าที่ทางอเมริกาภาพยนตร์Godzilla ว่าแย่เพราะไม่ถูกใจในภาพยนตร์หรือ Message จีซอนอยู่ในภาพยนตร์กันแน่ในขณะเดียวกันนอกจากภาพแทนของเหตุการณ์การปล่อยอาวุธเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านหน้าสั้นนักเขียนบทความบนเว็บไซต์การวิเคราะห์ภาพยนตร์ Godzilla ไว้ว่า Godzillaอาจจะเป็นสิ่งเตือนใจว่าก่อนที่มนุษย์จะยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้

เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องที่ทางเราได้นำเสนอออกไป ใครที่ชอบหรือไม่ชอบยังไงสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยนะครับ สำหรับใครที่อยากจะดูเรื่องเกี่ยวกับอะไร สามารถบอกเข้ามาาได้เลย สุดท้ายนี้อย่าลืมกดติดตาม พร้อมเหลา ไว้ด้วยนะครับ

ใส่ความเห็น