ภาพถ่าย UFO โคจรรอบโลก 13,000 ปี และบทสรุปที่แท้จริง

ภาพถ่าย UFO

ภาพถ่าย UFO ภาพวัตถุปริศนาที่เชื่อกันว่าเป็น UFO จากต่างดาวที่มีอายุกว่า 13 000 ปี มันคือหนึ่งในศูนย์กลางตำนานและทฤษฎีต่างๆนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เรื่อง alien ไปจนถึงองค์กรลับ illuminati หากทั้งหมดเป็นเรื่องจริง จะเป็นยังไงมาดูพร้อมๆ กันเลย

ภาพถ่าย UFO

วัตถุปริศนาที่เชื่อกันว่าเป็น UFO จากต่างดาว ที่มีอายุกว่า 100 ปี มันคือหนึ่งในศูนย์กลางตำนานและทฤษฎีต่างนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เรื่องเอเลี่ยนไปจนถึงองค์กรลับ illuminati หากทั้งหมด เป็นเรื่องจริงวงการวิทยาศาสตร์จะต้องสะเทือนเป็นแน่

แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น รูปภาพของวัตถุปริศนานี้ได้ถูกนาซ่าถ่ายเอาไว้ได้ในระหว่างโครงการ scs188 ในปี 1998 บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ใกล้กับประเทศนามิเบีย และไม่ใช่เพียงรูปเดียวเท่านั้น จะเห็นว่าหน้าตารูปร่างของมันแตกต่างจากวัตถุในอวกาศทั่วไป

เพราะมันมีส่วนที่ดูเหมือนยานอวกาศสีดำ และกำลังหมุนไปมาอีกด้วย หลังภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดข้อสงสัยว่า วัตถุนี้มันจะเป็นอะไรกันแน่ กระแสหนึ่งกล่าวว่ามันน่าจะเป็นเทคโนโลยีลึกลับของฝ่ายรัสเซีย อีกกระแสกล่าวว่ามันเป็นแค่ขยะอวกาศที่หน้าตาเหมือนกับยานอวกาศที่เรารู้จัก แต่ทฤษฎีที่โด่งดังที่สุดคือมันเป็นดาวเทียมหรือ UFO ที่โคจรคอยจับตาดูอะไรสักอย่างบนโลกมนุษย์มายาวนานมากแล้ว

สำหรับทฤษฎีนี้มีผู้อ้างว่ามันมีอายุกว่า 100 ปี และถูกจับสัญญาณได้มาก่อนแล้วในปี 1899 ด้วยฝีมือของอัจฉริยะอย่างนิโคลาเทสลา ในปีดังกล่าวนิโคลาเทสลาไ ด้ทำการทดลองในห้องแลปของเขาที่ Colorado springs ก็จะจับคลื่นสัญญาณปริศนาไว้ได้

เทสล่าได้บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ โดยสันนิษฐานว่ามันมาจากนอกโลก เกิดเป็นความคิดที่ว่าน่าจะมาจากดาวเทียมอัศวินดำนี้ก็ได้ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของนิโคลาเทสลา เป็นอย่างดี เพราะนักวิทยาศาสตร์ต่างลงความเห็นว่า หากไม่ได้ทดลองผิดพลาดเขาก็พบสัญญาณที่ว่านี้จริง

ซึ่งมันก็คือ Pulsar ปรากฏการณ์แผ่รังสีจากการหมุนของ ดาวนิวตรอน ที่เป็นจังหวะและแม่นยำสูงมาก ราวกับถูกส่งมาจากใครสักคน โดยมันถูกที่สุดครั้งแรกในช่วงปี 1960 ยังมีอีกหลายเหตุการณ์หลังจากนั้นในช่วงปี 1920 กับวิศวกรชาวนอร์เวย์ consult

เมื่อเขาพบสัญญาณวิทยุที่ตอบกลับมาไม่กี่วินาที หลังจากที่เขาส่งสัญญาณวิทยุสื่อสาร แต่นั่นก็เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า long delay Echo ซึ่งยังหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ไม่ใช่เหตุการณ์เหนือธรรมชาติแต่อย่างใด

การที่ Black Knight ถูกเชื่อว่าเป็นดาวเทียมหรือ Surprise มาจากบทความในปี 1954โดยนักเขียนและนักวิจัยเกี่ยวกับ UFO ชื่อดัง เขาบอกไว้ว่าไปพบดาวเทียมลึกลับ 2 ดวงกำลังโคจรรอบโลก ซึ่งในเวลานั้นยังไม่มีประเทศใดเลยที่สามารถส่งดาวเทียมออกไปนอกโลกได้

แต่บทความนี้ก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเขากำลังโปรโมทหนังสือ UFO ของตัวเอง และเนื้อหาข่าวดูจะเป็นการเขียนเชิงเสียดสีมากกว่า ทำให้บทความนี้เชื่อถือไม่ค่อยได้นัก ปี 1963 มีการอ้างว่า Cooper ได้พบ UFO ระหว่างภารกิจ Mercury 9

ซึ่งตรงกันกับรายงานของสถานีภาคพื้นดิน เป็นนักบินอวกาศที่รายงานการพบ UFO หลายครั้งตลอดอาชีพของเขา ทว่าในรายงานของทั้ง NASA และกระทำที่ตัว Cooper เองเขียนนั้น ไม่มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเลย

แล้วเรื่องที่ว่ามันมีอายุถึง 120 ปีล่ะ เรื่องนี้มาจากการคำนวณของ ดันแคน รูแน่น ในปี 1973 ที่ใช้ข้อมูลจากสัญญาณ long delay Echo ที่ 5 และ คนอื่นเคยตรวจพบ เขาเผยว่าที่มาของสัญญาณเหล่านั้นมาจากวัตถุอายุ 13 ปี

ที่โคจรในบริเวณดวงจันทร์ของโลก เขายังบอกอีกว่าวัตถุนี้มาจากระบบสุริยะของดาว ไอ้ซ่าถามว่า ภายหลังเขาก็ออกมาเผยว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ และเขาใช้วิธีการที่ผิดพลาดไปอย่างมาก

ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่พบวัตถุปริศนา และ ถูกโยงเข้ากับหลักในสไลด์ก่อนที่จะถูกที่สุดว่า วัตถุเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาทั้งหมด หรือเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับมันอีกมากมาย ตั้งแต่ที่บอกว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ มันเคยลงมาจอดบนโลก

หรือแม้กระทั่งมันถูกยิงตก โดยองค์กร อิลลูมินาติ แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดยืนยันคำพูดเหล่านั้น เมื่อเหตุผลสนับสนุนทฤษฎี ที่ว่าแบบไหนเป็นเทคโนโลยีของเอเลี่ยนถูกปัดตกแล้วตกอีก

ถ้าเช่นนั้นจะวัตถุลึกลับนี้มันคืออะไรกันแน่ จริงๆแล้วคำตอบอยู่ในจุดเริ่มต้นของมันนั่นเองอย่างที่กล่าวไปแล้วว่ารูปของ Black Knight ถูก เผยแพร่ในส่วนหนึ่งของภารกิจ scs188 ของนาซ่าในปี 1998

ทำไมรูปภาพที่โด่งดังไปทั่วโลกกลับไม่ได้รับความสนใจจากนาซ่าเลย เหตุผลอาจเป็นเพราะพวกเขามั่นใจว่า วัตถุนี้คืออะไรตั้งแต่แรกแล้ว นักข่าวและนักประวัติศาสตร์อวกาศชาวอเมริกันได้เขียนบทความ ให้ข้อมูลถึงที่มาที่ไปของมันอย่างละเอียดในปี 2014

และคำตอบที่ได้ก็อยู่ในโครงการที่ได้ถ่ายรูปนี้เอาไว้ สำหรับรูปที่นาซาเผยแพร่นั้นตั้งแต่รูปแรกถึงรุ่นสุดท้ายของวัตถุนี้ มีเวลาห่างกันประมาณ 2 นาที เมื่อนำมาประกอบการโดยยึดเอาหน้าตาของชั้นบรรยากาศโลก

แล้วจะเห็นองศาการขยับและการหมุนของวัตถุนี้ค่อนข้างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้ววัตถุนี้มันกำลังหมุนออกมาจากทิศทางของกล่องสำหรับ scs188 คือโครงการส่งกระสวยอวกาศแรกของ NASA ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติหนึ่ง

ในภารกิจคือการติดตั้งแผ่นกันความร้อนบนส่วนที่เรียกว่า shouldn’t ที่มีลักษณะคล้ายเสายื่นออกมาจากกระสวย โดยเสาร์นี้หลังจากการใช้งานต้องมีการหุ้มด้วยฉนวนเอาไว้ ไม่ให้ระบายความร้อนในอวกาศ และนี่เองคือที่มาของวัตถุปริศนา Black Knight

ระหว่างภารกิจในอวกาศที่เรียกว่า Space Walk หรือ epa โดยเคอรี่รอน และ เจมส์พวกเขา ทำแผ่นกันความร้อนแผ่นหนึ่งลอยออกไป กว่าที่พ่อเขาจะรู้ตัว แผ่นนั้นก็ลอยออกไปไกลมากแล้ว

จากวีดีโอจะเห็นว่าแผ่นกันความร้อนนี้ ค่อยๆออกไปพร้อมๆกับที่มันหมุนไปด้วย ในบางมุมจะเห็นว่ามันมีหน้าตาแบบเดียวกันกับรูปภาพของ Black Knight ซึ่งมีการเปรียบเทียบองค์ประกอบต่าง

ก็น่าเชื่อว่าทั้งสองคือวัตถุชิ้นเดียวกัน ส่วนเรื่องสีของมันนั้นเป็นไปได้ว่าเกิดจากการสะท้อนของแสงในอวกาศ ที่มีแสงน้อยอยู่แล้ว ทำให้สีของมันไม่ได้ตรงตามสีที่มันเป็นจริง สำหรับเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถพบมันได้อีกแล้วนั้น

นั่นเพราะมันน่าจะถูกแรงโน้มถ่วงดูดเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกภายในสัปดาห์เดียว ซึ่งมีการตรวจพบเป็นช่วงเวลาสั้นมีมวลไม่มากมันน่าจะถูกเผาไหม้ไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมงนั้นเอง

เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องที่ทางเราได้นำเสนอออกไป ใครที่ชอบหรือไม่ชอบยังไงสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยนะครับ สำหรับใครที่อยากจะดูเรื่องเกี่ยวกับอะไร สามารถบอกเข้ามาได้เลย สุดท้ายนี้อย่าลืมกดติดตาม พร้อมเหลา ไว้ด้วยนะครับ

ใส่ความเห็น