Witch trials in Salem
การล่าแม่มดเกิดขึ้นในช่วงยุคใหม่ตอนต้นของประวัติศาสตร์ มีการกล่าวหาคนที่มีพฤติกรรมผิดแปลกไปจากคนอื่นว่า เป็นคนนอกรีต เรียนวิชาพ่อมดแม่มด ที่แย่กว่านั้นก็คือคนที่ถูกกล่าวหาก็เหมือนโดนใบสั่งตาย เพราะพวกเขาอาจจะต้องจบชีวิตลงในเวลาต่อมาก็ได้ ทำให้ช่วงนั้นมีคนเสียชีวิตนับล้านคนจากการถูกกล่าวหา แต่จะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ เหตุการณ์การล่าแม่มดพ่อมดเกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น ฝรั่งเศส ที่โด่งดังมากๆในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในช่วงปี 1692 ถึง 1693 ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในซาเล็มแห่งนี้จะถูกเรียกว่า พิวลิตัน พวกเขาเป็นคนที่เคร่งในความเชื่อและมีนิสัยต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยจะสุงสิงกันเท่าไหร่นัก แถมยังมีความขัดแย้งกับชนพื้นเมืองและผู้อาศัยเชื้อชาติอื่นในพื้นที่ มีเด็กผู้หญิงในซาเล็ม readyplanet อายุ 9 ปีและ amk williams อายุ 10 ปี ถูกจับสังเกตได้ว่าพวกเธอมีอะไรบางอย่างผิดปกติไปจากเด็กคนอื่นๆ เช่น
เคลื่อนไหวร่างกายด้วยท่าทางที่แปลกไปอารมณ์รุนแรงและก้าวร้าว แต่หมอในตอนนั้นไม่สามารถตรวจหาความผิดปกติทางร่างกายได้ ก็เลยบอกว่าอาการนี้เกิดจากถูกปีศาจเข้าสิง แน่นอนว่าพอผู้ที่ดูมีความน่าเชื่อถือบอกมาขนาดนี้บวกกับความกลัวศพปีศาจของผู้คนในซาเล็ม ทำให้ขาวการโดนปีศาจสิงกระจายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากวันนั้นกลายเป็นว่ามีเด็กผู้หญิงอีกหลายคนถูกพบว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นคล้ายๆกัน ไม่ว่าจะเป็นการขยับร่างกายไปมาด้วยลักษณะท่าทางที่ไม่ปกติ หรือตามเนื้อตามตัวมีผื่นขึ้น เรื่องราวใหญ่โตขึ้นเมืองหญิงสาวในหมู่บ้าน 4 คนรวมตัวกันกล่าวหาผู้หญิงอีก 3 คนว่าเป็นคนทรมานร่างกายของพวกเธอ ประกอบไปด้วยหญิงตั้งครรภ์ 1 คนมีชื่อว่าซาร่ากู้ด และเธอก็มีลูกสาวคนโตอีก 1 คนด้วย ต่อมาคือซาร่าออสบอร์นและทิทิวบาหญิงรับใช้ในบ้านของเบ็ตตี้ หนึ่งในเด็กที่ถูกกล่าวหาว่าปีศาจเข้าสิงอยู่บ้าน ซึ่งทิทิวบาปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ทำร้ายร่างกายจะยอมรับว่าเธอฝึกคาถาแม่มดจริง
โดยอ้างว่าเธอถูกบังคับจากซาร่าออสบอร์น และซาร่ากู้ด ในขณะที่ซาร่าทั้งสองก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือของพวกเธอ แต่ผลสุดท้ายคือซาร่าออสบอร์นเสียชีวิตในห้องขัง เพราะถูกเปล่าจากสามีซาร่ากู้ดอีกที ซาร่ากู้ดก็ดันถูกกล่าวหาจากลูกสาวของเธอและถูกแขวนคอในเวลาต่อมา ในขณะที่ทิวบาได้รับพิจารณาให้ปล่อยตัวหลังจากนั้นไม่นาน เพราะคำให้การปิดตกอยู่ที่หญิงสาวสองคนก่อนหน้าว่าเป็นคนชักนำไปแล้ว หลังจากนั้นทิทิวบาได้กลายเป็นต้นแบบของการเอาตัวรอดของคนอื่นๆในซาเล็ม คนเริ่มใส่ร้ายกันมากขึ้นเพราะไม่อยากถูกลงโทษ ท้ายที่สุดมีผู้เสียชีวิตจากการแขวนคอในซาเล็มทั้งหมด 20 คนโดย 14 คนเป็นผู้หญิงอีก 6 คนเป็นผู้ชายและยังมีคนถูกคุมขังอีกเป็นจำนวนมาก ต่อมาในสมัยใหม่ผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษาวิจัยอาการแปลกๆที่เกิดขึ้นกับหลายๆคน และได้ข้อสันนิษฐานว่าอาการเหล่านั้นอาจจะเกิดจากสุขอนามัยในอาหาร และสภาพแวดล้อมในสมัยนั้นที่ยังไม่มีปลอดภัยมากนัก
ทำให้ผู้คนอาจได้รับสารพิษจากการปนเปื้อนในอาหารรวมถึงโรคภัยต่างๆ ที่หมอสมัยนั้นยังไม่รู้จักเช่น ไข้สมองอักเสบ โรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง หอบหืด หรือไม่บางคนอาจจะถูกทำร้ายร่างกายมาก็ได้ นอกจากเรื่องอาการแปลกๆเคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของแม่มดแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่บางคนอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการล่าแม่มดมายาวนาน อย่างแรกเคยมีคำบอกเล่าว่ามีผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดถูกประหารชีวิตทั่วโลกมากกว่า 9 ล้านคน ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะไม่ได้เยอะขนาดนั้นเพราะไม่มีบันทึกจำนวนที่แน่นอน แต่ที่พอประมาณได้คือยอดผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และถูกตัดสินประหารชีวิตตั้งแต่ช่วงปี 1427 ยาวไปจนถึง 1782 มีอยู่ประมาณ 30000 ถึง 60000 คน แม้ว่ายอดผู้ถูกประหารจะไม่ถึง 9 ล้านคน แต่ก็ถือว่ามีคนบริสุทธิ์ต้องตายจากเหตุการณ์นี้เยอะมากๆเลยทีเดียว ส่วนวิธีการลงโทษคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดก็ไม่น่าจะใช่การถูกเผาทั้งเป็น
อย่างที่หลายๆคนคิดอาจจะถูกแขวนคอแล้วนำศพไปเผาแทน เพราะมีหลักฐานอย่างรูปวาดของร่างกาย ralph gardiner ซึ่งเป็นภาพการลงโทษผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดของประเทศอังกฤษในปี 1655 ดูจากรูปแล้วก็ไม่น่าจะใช่การเผาไฟอย่างที่เคยเข้าใจกันมาจริงๆ แล้วที่เราเรียกกันติดปากว่าล่าแม่มดงั้นแสดงว่ามีแต่ผู้หญิงหรือเปล่าที่ถูกกล่าวหาและถูกลงโทษ คำตอบก็คือก็ไม่น่าจะใช่แบบนั้น เพราะผู้เชี่ยวชาญค้นพบว่าช่วงนั้นก็มีผู้ชายที่ถูกกล่าวหาและถูกลงโทษ ในยุโรปเหมือนกันโดยจำนวนอยู่ที่ประมาณ 600 คนพูดถึงการลงโทษผู้กล่าวหาต้องยอมรับเลยว่าเรื่องนี้ยอมเกี่ยวข้องกับศาสนจักรในช่วงนั้น ที่เป็นผู้ตัดสินว่าใครจะถูกลงโทษบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกนิกายของศาสนาคริสต์ที่มีการไต่สวนและลงโทษผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดแม่มด เพราะบางที่แทบจะไม่พบหลักฐานการกระทำแบบนั้นเลย จากข้อมูลที่ผู้เชี่ยวชาญศึกษามาพบว่ามีคนที่ถูกกล่าวหาและถูกประหารชีวิตเพียงแค่ 25% เท่านั้น
และผู้เรียนคาถาวิเศษและก็มีแค่ประมาณ 2000 คน สุดท้ายเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดของผู้ที่ต้องสังเวยชีวิตจากความเข้าใจผิด หรือถูกใส่ร้ายก็คือปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชิ้นไหนบ่งบอกว่า คาถาแม่มดมีอยู่จริง ตรงนั้นอาการต่างๆที่ดูแปลกไปจากคนอื่นก็เป็นอาการของโรค ที่ผู้คนในสมัยนั้นหรือแม้แต่ผู้ป่วยเองก็ไม่สามารถรู้ได้ และคนที่ต้องจากไปก็ไม่มีวันได้กลับมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แม้พ่อมดแม่มดอาจจะไม่มีอยู่จริงผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสังเวยชีวิตจากความเชื่อนั้น มีอยู่จริง
ก็จบกันไปแล้วนะครับผมเรื่องราวของการล่าแม่มด เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างหรือว่าข้อมูลผิดพลาดตรงไหนลอง comment มาหน่อยครับผม ยังไงก็ฝากกดไลค์กดแชร์กด Subscribe ให้กับช่อง พร้อมเหลา ไปด้วยเพื่อเราจะได้มีกำลังใจในการทำคลิปมาให้เป็นเพื่อนๆ ได้รับชมกัน ส่วนคลิปน่าจะเป็นอะไรนั้นฝากติดตามกันด้วยนะครับผม สำหรับวันนี้ผมคงต้องขอลาไปก่อนนะครับทุกคนเจอกันคลิปหน้า บ๊ายบายนะครับผม