Book of the Dead ความตาย เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใคร ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะดีหรือไม่ ถ้าเรารู้ล่วงหน้าว่า ตายไปแล้วเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆกันเลย
Book of the Dead โลกหลังความตายของชาวอียิปต์
โลกหลังความตายในความคิดของทุกคนนั้นเป็นอย่างไร ความตายเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็เลี่ยงไม่ได้ แต่จะดีหรือไม่ถ้าเราสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าตายแล้วเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็มีความเชื่อเรื่องความตายและชีวิตหลังความตายเหมือนกัน แต่พวกเขาเชื่อว่าการตายไม่ใช่การสลายหายไป แต่เป็นการไปใช้ชีวิตใหม่ในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งมีแต่ความสุขแต่ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ในโลกหลังความตาย เพราะเขาต้องผ่านด่านทดสอบจากเทพและเทพี 16 เขานับถือซึ่งบรรดาเหล่าเทพและเทพี อียิปต์ มีมากกว่า 1000 องค์ องค์ที่สำคัญของชาวอียิปต์หลักๆก็มีประมาณ 11 องค์ เป็นตัวแทนของสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเทพแห่งความตาย เทพีแห่งโลกใต้พิภพ เทพีแห่งความตาย ผู้เป็นภรรยาของ osiris แห่งท้องฟ้า
การต่อสู้ซึ่งเป็นบุตรของโคไซน์ และ เสร็จเหตุแห่งความเลวร้ายแห่งการสร้างสรรพสิ่งดวงอาทิตย์ ตัวแทนความเป็นแม่ และความอุดมสมบูรณ์ในพิธีตัดสินชีวิตหลังความตาย เทพแห่งสติปัญญา เทพีแห่งความสุข และการปกป้อง อามุนเทพ อาจจะเป็นเทพแห่งความตายอียิปต์ จากโลกมนุษย์ไปย่อมต้องไปเจอกับเทพองค์นี้แน่ๆ
โลกแห่งความตายของชาวอียิปต์สมัยนั้น ด้วยความที่พวกเขามีความเชื่อในเรื่องของความตาย และการไปอยู่ในโลกใหม่มากๆ พวกเขาย่อมมีความกังวลกับสิ่งเหล่านี้ ทำให้ท้ายที่สุด จึงเกิดเป็นบันทึกหลังความตาย เพื่อบอกเล่าสิ่งที่พวกเขาต้องเจอหลังจากที่ละโลกนี้ไปแล้ว
บันทึกหลังความตายนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ Book of the dead to เขียนเป็นภาษาบนกระดาษ ปาปิรุส หรือกระดาษที่ได้มาจากปาร์ตี้มุสลิม of the dead เท่านั้นพร้อมกับคนทั่วไปด้วยเหมือนกัน
แล้วพวกเขาจะต้องเจอกับบททดสอบอะไรจากเทพองค์ไหนบ้าง การเดินทางในโลกหลังความตายครั้งนี้ เริ่มต้นหลังจากเราตายจากโลกนี้ไปแล้ว ร่างกายของเราจะถูกทำเป็นบะหมี่บรรจุอยู่ในโลง เมื่อจิตวิญญาณของเราออกจากร่างเราจะต้องใช้ความพยายามในการเดินทาง ตามหาเทพแห่งความจริง และความยุติธรรม แล้วอย่าลืมนำ Book of the dead มาด้วย
เพราะในนั้นรวบรวมบทสวดคาถา รวมถึงบทสวดสรรเสริญเทพและเทพีต่างๆ ไว้เป็นสิ่งที่จำเป็น เวลาต้องไปเจอเหล่าเทพทั้งหลาย แต่ก่อนที่จะได้เจอกับเทพีมาอาร์ต มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเราจะต้องเจอกับบรรดาปีศาจที่น่ากลัว พยายามหลบหลีกพวกมันให้ได้ก็แล้วกัน
พอผ่านมาได้ก็จะได้เจอกับเทพีมาร์ท เมื่อท่านเห็นถึงความพยายามในการฝ่าฟันเข้ามาท่านก็จะส่งเราไปเจอกับเทพอีก2 องค์ ที่จะประเมินความดีของเราโดยเราจะต้องบอกว่าเรามีความดีอะไรบ้าง ที่เคยทำไว้ เช่นเราไม่เคยเอาเท้าจุ่มลงแม่น้ำไนล์อันศักดิ์สิทธิ์
และไม่เคยทำให้ใครร้องไห้ นั่นก็ถือเป็นความดีแล้ว เป็นด่านที่เหมือนง่ายจริงๆ แต่ก็ยากในเวลาเดียวกัน เหมือนให้คนจำนวนมากมาสอบสวนชีวิตเรา ถึงยังไงเราก็ต้องพูดความจริงเท่านั้น เพราะถ้าโกหกแล้วถึงจะผ่านด่านนี้ไปได้ แต่ด่านต่อไปคนโกหกจะไม่รอดแน่นอน
แล้วด่านต่อไปนั่นก็คือ เทพอานูบิส ที่ท่านจะชั่งน้ำหนักหัวใจกับขนนกที่มาจากปีกของเทพี ถ้าหัวใจของเราเบากว่าขนนกก็จะผ่านการทดสอบ โดยมีเทพพอร์ชพคลอยบันทึกผลการชั่ง แต่ถ้าหัวใจหนักกว่าขน หัวใจนั้นจะถูกโยนให้สัตว์ประหลาดที่ทั้งตัวนั้นประกอบไปด้วยสัตว์ 3 ชนิด ได้แก่จระเข้ เสือดาว และฮิปโปโปเตมัส
แน่นอนว่าปากอาจจะโกหกได้แต่หัวใจของคนที่ทำความดีกับความชั่วนั้นแตกต่างกันมากตามความเชื่อของอียิปต์ที่ว่า คนดีหัวใจจะเบา คนชั่วหัวใจจะหนัก แต่เมื่อคุณคือคนที่ทำความดีมากกว่าความชั่ว และหัวใจเบาหวิวกว่าขนนก
และก็หาที่สุดก่อนจะถูกเทพราเทพ แห่งพระอาทิตย์มารับตัวไปด่านขององค์สุดท้าย คือเทพแห่งความตาย ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะได้ไปใช้ชีวิตหลังความตายต่อหรือไม่ ซึ่งถ้าผ่านเราจะได้เข้าไปในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ มีแต่บรรยากาศของความสงบ ความสุข คุณจะได้เจอครอบครัวที่ล่วงลับไปแล้วในดินแดนแห่งนี้ด้วย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ไปใช้ชีวิตจริงๆ เพราะถ้าผ่านเข้าไปแล้วจะต้องทำงานด้วยการปลูกพืชพรรณ และสร้างดินแดนแห่งความตายพร้อมๆกับคนอื่นๆ ตรงนั้นถึงแต่ละด่านจะดูยากเย็นแสนเข็ญ อย่างนั้นการไปโลกหลังความตาย แล้วยังต้องทำงานอีก
เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องที่ทางเราได้นำเสนอออกไป ใครที่ชอบหรือไม่ชอบยังไงสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยนะครับ สำหรับใครที่อยากจะดูเรื่องเกี่ยวกับอะไร สามารถบอกเข้ามาได้เลย สุดท้ายนี้อย่าลืมกดติดตาม พร้อมเหลา ไว้ด้วยนะครับ