Mammoth และแผนการคืนชีพยักษ์จากยุคน้ำแข็ง
เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว มีข่าวการค้นพบซากของ woollymammoth ถูกแช่ในดินบริเวณยูคอนเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา โดยสันนิษฐานว่าเป็นแมมมอธเพศเมียที่มีชีวิตเมื่อประมาณ 30000 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นมัมมี่แมมมอธที่ถูกรักษาสภาพให้มีความสมบูรณ์มากที่สุดในอเมริกาเหนือ และทางการตั้งชื่อให้กับมันว่า NUN CHO GA ซึ่งมีความหมายว่าลูกสัตว์ตัวใหญ่ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 มีการค้นพบซากของ woolly mammoth เช่นเดียวกัน ถูกค้นพบในไซบีเรีย โดยซากนี้ถูกตั้งชื่อว่า YUKA มีอายุประมาณ 39000 ปี โดยความยาวลำตัวของ YUKA นั้นอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรถึงแม้มันจะดูตัวเล็กแต่สภาพของ YUKA ค่อนข้างสมบูรณ์มากๆและยังมีขนให้เห็นอยู่บางส่วนด้วย ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยเห็นแมมมอธที่เป็นฟอสซิลโครงกระดูก เห็นในภาพยนตร์หรือในการ์ตูน แต่ทุกคนเชื่อไหมครับว่าแมมมอธที่สูญพันธุ์ไปนานมากๆแล้ว
กำลังจะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นี้คือโปรเจคใหญ่ของสหรัฐอเมริกาที่จะช่วยให้เราเข้าใกล้กับเหล่าแมมมอธมากขึ้น ก่อนที่จะพูดถึงโปรเจคการฟื้นคืนชีพแมมมอธ เราขอเล่าเกี่ยวกับแมมมอธคร่าวๆก่อนนะครับ และก่อนที่จะเข้าเรื่องแมมมอธผมก็ขอขอบคุณผู้ชมผู้สนับสนุนทุกคนที่กดไลค์กดแชร์กด Subscribe ให้กับช่องพร้อมเหลาไว้ด้วย ยังไงก็ขอขอบคุณผู้ชมผู้สนับสนุนทุกท่านที่ยังชมช่องเราอยู่ เราสัญญาว่าจะตั้งใจทำคลิปที่มีคุณภาพให้เป็นเพื่อนๆ ได้รับชมกันต่อไป แมมมอธช้างดึกดำบรรพ์ในสมัยไพลสโตซีนหรือประมาณ 2.6 ล้านปีก่อนถึง 10000 ปีก่อน
รูปร่างหน้าตาของมันคล้ายกับช้างในปัจจุบัน แต่มีโหนกที่เป็นก้อนไขมันอยู่ที่หลังบางสายพันธุ์อาจจะมีขนปกคลุม โดยส่วนสูงของแมมมอธนั้นอยู่ที่ประมาณ 4.5 เมตรซึ่งสูงพอๆกับรถบัส 2 ชั้นเลยทีเดียวเชียว ลักษณะเด่นของแมมมอธนอกจากจะตัวใหญ่และงาที่ยาวแล้ว โครงสร้างฟันของมันยังที่ว่าแข็งแรงมาก เพราะพวกมันมีแผ่นเคลือบฟันที่ช่วยทำให้ฟันแข็งแรงและทนทานกว่าช้างในปัจจุบัน บางคนอาจคิดว่าทั้งๆที่แมมมอธเป็นสัตว์กินพืชแต่ทำไมต้องมีฟันที่แข็งแรงขนาดนั้น คำตอบก็คือหญ้าที่ผมมันกินนั้นเขียวค่อนข้างยาก เพราะยาเหล่านี้มีสารซิลิกาแข็งจนทำให้ฟันสึกหรอได้ถ้าฟันไม่แข็งแรงพอ
นอกจากนี้ส่วนโหนกทีหลังของแมมมอธนั้น เป็นลักษณะที่ถูกสันนิษฐานมาจากภาพวาดผนังถ้ำจากฟอสซิล เนื่องจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในยุคหินจะชอบวาดภาพของแมมมอธไว้ในผนังถ้ำ ในปัจจุบันนั้นแมมมอธมีสปีชีส์ที่ถูกบันทึกไว้ทั้งหมด 10 สปีชีส์ เราอาจจะคุ้นเคยว่าฟอสซิลของสัตว์ดึกดำบรรพ์มักจะอยู่ใต้พื้นดิน แต่กับแมมมอธแล้วส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญจะเจอพวกมันโดนแช่อยู่ในน้ำแข็ง นั่นก็เพราะว่าบริเวณที่มันอาศัยอยู่เป็นแถบอาร์กติกมีอากาศหนาวเย็นและปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และเชื่อหรือไม่ว่าเคยมีคนพบว่าผู้คนที่อาศัยอยู่แถวที่มีซากแมมมอธนั้น
พวกเขาเคยนำซากแมมมอธมาให้สุนัขลากเลือกได้กินเป็นอาหาร แต่ก็ไม่ใช่ว่าแมมมอธทั้งหมดนั้นจะอาศัยอยู่แถบอาร์กติก เพราะบางส่วนก็อาศัยอยู่แถบแอฟริกา เอเชียอเมริกาเหนือ และยุโรปด้วย ภายนอกแมมมอธอาจจะดูคล้ายกันไปหมด แต่ผู้เชี่ยวชาญก็จะแบ่งสปีชีส์ของแมมมอธจากความแตกต่างของโครงกระดูก และฟันของพวกมันถึงจะไม่ได้แตกต่างกันมากก็ตาม เพราะลึกๆแล้วระบบพันธุกรรมของพวกมันใกล้เคียงกันมาก ว่าด้วยเรื่องแมมมอธกับช้างสมัยใหม่จริงๆแล้วเป็นช้างที่มีความใกล้เคียงกับช้างสมัยนี้มาก มี DNA ตรงกันมากถึง 99.6 เปอร์เซ็นต์ มันจึงยากที่จะหาความแตกต่าง เนื่องจากพวกมันอยู่ในลำดับเดียวกัน ก็คือ PROBOSCIDEA และช้างสมัยใหม่ที่ใกล้เคียงกับแมมมอธที่สุด ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเราเลย นั่นก็คือ ช้างเอเชีย นั่นเอง
ก็จบกันไปแล้วนะครับเรื่องราวของช้าง Mammoth เป็นอย่างไรกันบ้างเพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไร หรือข้อมูลของเราผิดพลาดตรงไหน เพื่อนๆสามารถคอมเม้นต์ไว้ได้เลยนะครับผม ยังไงก็ฝากกดไลค์กดแชร์กด Subscribe ให้กับช่อง พร้อมเหลา เพื่อเราจะได้มีกำลังใจในการทำคลิปต่อๆไป ให้เพื่อนๆได้รับชมกัน