ทำไมยุคไดโนเสาร์ถึงเต็มไปด้วยสัตว์ขนาดยักษ์ Dinosaur Gigantism

Dinosaur Gigantism

Dinosaur Gigantism

มหายุค mesozoic เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นยุคสมัยของไดโนเสาร์จากการเต็มไปด้วยไดโนเสาร์มหึมาที่แพร่กระจายอาศัยอยู่ทั่วโลก ถึงแม้พวกมันจะไม่สามารถอยู่รอดและสูญพันธุ์ไปแล้วหลายล้านปี แต่อะไรคือเหตุผลทำให้พวกมันใหญ่โตถึงขนาดนั้นได้ นี่คือยีราฟพวกมันสามารถสูงได้เกือบถึง 6 เมตรและหนักมากกว่า 1 ตัน ช้างแอฟริกาพวกมันคือสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ กับความสูงเฉลี่ยกว่า 3 เมตรหนัก 5 ตันแต่ขนาดและความสูงเหล่านี้เพียงไม่ได้เลยกับ ซอโรพอด ไดโนเสาร์คอยาวในอดีตมันสามารถสูงได้มากกว่า 15 เมตร ความยาวโดยรวมจากหัวถึงหางนั้นยังมากถึง 30 เมตร ในสายพันธุ์ขนาดใหญ่จะมีน้ำหนักมากกว่า 70 ตัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ซอโรพอดเดินไปมาบนโลกยังมีไดโนเสาร์ขนาดยักษ์อีกหลากหลายชนิด

โลกของเราเก่าแก่มีอายุมากกว่า 4.5 พันล้านปี ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีสิ่งมีชีวิตหลากหลายรูปแบบผลัดเวียนกันไป โลกของเราแบ่งออกเป็นหลายยุคสมัยในแต่ละช่วงเวลานั้นต่างมีสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และมียักษ์ใหญ่อาศัยอยู่ในยุคนั้นๆเสมอ แต่ก็น่าสงสัยว่าอะไรทำให้ขนาดของพวกมันเติบโตไปได้มากกว่าสัตว์อื่นๆ มหายุคมีโซโซอิกคือช่วงเวลาที่เราสัตว์เลื้อยคลานโดยเฉพาะไดโนเสาร์ได้ก้าวขึ้นเป็นใหญ่ จนถูกเรียกว่าเป็นยุคของไดโนเสาร์มหายุคมีโซโซอิกนั้นอยู่ในช่วง 252 ถึง 66 ล้านปีก่อน ในช่วงเวลานี้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มโหฬารจำนวนมาก ซึ่งซากฟอสซิลที่ยังหลงเหลืออยู่เป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงขนาดของพวกมันได้เป็นอย่างดี

เราไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วนี้มีขนาดที่ใหญ่โต ตั้งแต่ไดโนเสาร์เทเลพอต ทีเร็กซ์และสไปโนซอรัสที่สูงได้มากกว่า 4 เมตรและยาวมากกว่า 10 เมตร น้ำหนักของพวกมันถูกคาดว่าอาจจะมากถึง 8 ตัน นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์อื่นๆอีกหลายชนิดเช่นไทเซอราท็อปที่ยาวถึง 9 เมตรหนัก 13 ตัน โกซอรัสที่ยาว 15 เมตรหนักกว่า 16 ตัน และไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดย่อมหนีไม่พ้นอย่างซอโรพอดที่เราได้กล่าวถึงไปก่อนแล้ว พวกมันคือไดโนเสาร์กินพืชที่มีจุดเด่นคือคอและหางที่ยาวมากเลย พวกมันแบ่งออกเป็นหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งต่างก็เป็นยักษ์ใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น น่าเสียดายที่ฟอสซิลของพวกมันมากไม่สมบูรณ์ทำให้ยังไม่สามารถได้ว่าสายพันธุ์ใดใหญ่ที่สุดกันแน่

ซอโรพอดมีหลากหลายรูปแบบโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือแบบตัวใหญ่แต่ความยาวหัวถึงหางสั้น กับแบบที่มีหัวถึงหางยาว diplodocids ชนิดที่มักถูกยกให้เป็นไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดคือ อาร์เจนติโนซอรัส ซึ่งยาว 30 ถึง 35 เมตรหนักเดา 60-75 ตัน จากงานวิจัยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมากล่าวว่าข้อความมันอาจจะยาวถึง 15 เมตร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนพวกมันก็ครองตำแหน่งสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีบนโลกอยู่ดี แต่นอกจากเหล่าไดโนเสาร์แล้วหากมองไปบนท้องฟ้าก็จะพบกับเหล่าสัตว์บินได้ที่มีขนาดใหญ่โตเช่นกัน เคเซากัวรัส มีขนาดความยาวจากปีกซ้ายไปขวากว่า 10 เมตร หากมันยืนบนพื้นพวกมันจะสูงพอๆกับยีราฟเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่สัตว์บกเท่านั้นในท้องทะเลก็ยังเต็มไปด้วยสัตว์น้ำมากมายอยู่ด้วย

สัตว์เลื้อยคลานทะเลที่ใหญ่ที่สุดอย่าง shastasaurus คาดว่ามันมีความยาวถึง 21 เมตร จะเห็นว่าในยุคนี้มีสัตว์ขนาดใหญ่เต็มไปหมด แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้พวกมันสามารถขยายออกไปใหญ่โตได้ขนาดนี้ มีการพยายามศึกษาหาคำตอบว่าทำไมสัตว์ในยุคไดโนเสาร์กลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาได้ ซึ่งก็มีหลายเหตุผลด้วยกันและเชื่อว่าเหตุผลเหล่านี้ตามชมผลร่วมกันทำให้เกิดเป็นยุคสมัยของยักษ์ มีการเสนอว่าเหตุผลที่ทำให้สัตว์ต่างๆมีขนาดใหญ่ขึ้น มาจากการมีปริมาณออกซิเจนที่มากกว่า ปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้นนั้นส่งผลให้สิ่งมีชีวิตสามารถเผาผลาญและรักษาพลังงานได้ดีขึ้น มีงานวิจัยหลายชิ้นเสนอว่าในมหายุค mesozoic มีปริมาณออกซิเจนที่หนาแน่นกว่าปัจจุบันจึงช่วยส่งเสริมให้สัตว์ต่างๆมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังมีงานวิจัยชิ้นอื่นๆที่ยังว่าจริงๆแล้วปริมาณออกซิเจนในมหายุค mesozoic อาจมีน้อยกว่าในปัจจุบันด้วยซ้ำ

ข้อเสนอนี้จึงยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่และมีข้อเสนอแนะอื่นที่ได้รับความนิยมมากกว่าคือเรื่องของอาหาร ในยุคสมัยของไดโนเสาร์พืชต่างๆมีจำนวนอยู่มากมายมหาศาลมากกว่าที่ต่างๆจะกินได้หมด จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารที่มีไม่จำกัด เมื่อสัตว์กินพืชต่างๆสามารถกินได้ตลอดเวลาพวกมันก็จะกินเข้าไปให้เยอะที่สุด กลายเป็นการมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นแต่ไม่ใช่แค่สัตว์กินพืชเท่านั้น เพราะสัตว์กินเนื้อเองก็ทยอยมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย เมื่อเหยื่อตัวใหญ่นักล่าก็ต้องมีตัวใหญ่เพื่อให้สามารถออกล่าเหยื่อขนาดใหญ่ และด้วยการขยายขนาดนี้ส่งผลเพราะๆกันทำให้สัตว์ต่างๆต้องมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นไปตามๆกันอย่างสมดุล

แต่ไม่ใช่แค่นั้นการที่สายพันธุ์ต่างๆสืบทอดต่อไปเอง ก็ทำให้พวกมันมีขนาดใหญ่ขึ้น สมมติฐานของนักบรรพชีวินวิทยาเอ็ดเวิร์ดหรือโค้กครูกล่าวไว้ว่าสัตว์ที่วิวัฒนาการตามสายเลือด เมื่อเวลาผ่านไปพวกมันมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ไดโนเสาร์จำนวนมากตกอยู่ในขอบเขตของสมมติฐานนี้ นั่นคือยิ่งเวลาผ่านไปพวกมันก็เริ่มมีขนาดใหญ่โตมากขึ้น ขนาดของพวกมันยังมีผลต่อสังคมและการเอาชีวิตรอดด้วย เช่นการแข่งขันในการหาคู่หรือการป้องกันตัวต่อสัตว์นักล่าต่างๆเป็นต้น 

ก็จบกันไปแล้วนะครับผมเรื่อง Dinosaur Gigantism เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง หรือว่าข้อมูลของเราผิดพลาดตรงไหน เพื่อนๆสามารถติชมและพิมพ์ทิ้งไว้ในช่อง comment ได้เลยนะครับ ยังไงก็ฝากกดไลค์กดแชร์กด Subscribe ให้กับช่อง พร้อมเหลา ไว้ด้วยเพื่อเราจะได้มีกำลังใจในการทำคลิปต่อๆไปมาให้เพื่อนๆได้รับชมกัน

ใส่ความเห็น