สวัสดีครับพบกับพร้อมเหลาเช่นเคยเด้อ สำหรับบทความต่อไปนี้เราจะมาเล่าเรื่องของ MERMAID นางเงือก และตำนานไซเรนกับบันทึกการมีตัวตนหลายพันปี เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูติดตามเนื้อหากันได้เลยนะครับ
เรื่องเล่า MERMAID นางเงือก ตำนานไซเรน
เมื่อประมาณเดือนที่แล้วนะวันที่ 6 เมษายน ได้มีแอ็คเค้าน์ติ๊กตอกที่มีชื่อว่า มาเมียคาลี้ ได้ลงคลิปวิดีโอที่อ้างว่าพบนางเงือกตัวจริงมีสีเขียวเข้มมีผมสีน้ำตาลแดงและมีหางเป็นปลาไม่มีเกล็ดร่างกายมันน่ะยังขยับได้อยู่และมีแมลงวันตอมคล้ายๆกับว่ามันกำลังจะเน่า นางเงือกตัวนี้ได้ถูกค้นพบที่ประเทศเคนยา และคลิปวิดีโอนี้มียอดวิวสูงสุดถึง 9 ล้าน 6 แสนวิว ที่ว่าทำให้ผู้คนสนใจคลิปนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว และคลิปนี้แหละที่จะปลุกกระแสการพูดถึงนางเงือกไปทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง ตัวอะไรนี่น่ากลัว มันเป็นคนหรือปีศาจหรือเปล่าหรืออะไรมันเป็นนางเงือก นางเงือกมีจริงด้วยหรอมันมาจากไหน
นางเงือกหรือ Mermaid คือตำนานของสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะท่อนบนเป็นหญิงสาวเลอโฉม ส่วนท่อนล่างตั้งแต่สะดือลงไปจะเป็นปลา แต่ถ้าเป็นเพศชายนั้นจะถูกเรียกว่านายเงือกหรือ Merman โดยทั่วไปแล้วนางเงือกมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่มรักสงบไม่มีอันตรายต่อมนุษย์แต่อย่างใด แต่บางตำนานกล่าวว่าพวกเธอมักจะล่อลวงนักเดินเรือ ให้หลงใหลในหน้าตาและรูปลักษณ์ที่สวยงาม หรือใช้เสียงร้องเพลงที่ไพเราะ หลอกให้คนกระโดดลงน้ำและจมหายไปกับพวกเธอ นอกจากนี้พวกโจรสลัดยังเชื่อว่าการได้พบเจอกับพวกเธอน่ะมักจะมาพร้อมกับโชคร้าย
นางเงือก มีตำนานหนึ่งบนท้องทะเลที่โด่งดังที่สุดในโลก เรื่องราวของเธอน่ะมีมากมายทั้งเรื่องเล่าหนังสือภาพวาดหรือภาพยนตร์ต่างๆ อย่างเช่นเรื่องราวที่โด่งดังที่สุดอย่างกับ little mermaid แต่งขึ้นในปี 1836 ของคริสเตียนแอนเดอร์เซน ตำนานของนางเงือกเป็นเรื่องเล่าเพียงอย่างเดียว แต่ว่ามีบันทึกการพบนางเงือกจริงๆอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ และเป็นการบันทึกของผู้มีชื่อเสียงโด่งดังถึง 3 คน
คนแรกคือ จอร์นสมิท นักสำรวจชาวอังกฤษ ในบันทึกการเดินเรือปี 1614 กล่าวว่าเขาได้พบนางเงือกหลายตนในทะเลแคริบเบียน และเขาได้บรรยายด้วยความตื่นเต้นไว้ว่า ว่ายน้ำอย่างสง่างามตามชายฝั่งส่วนสุดท้ายเหมือนกับลำตัวผู้หญิง จะมีดวงตากลมใหญ่และกลมมน จมูกทรงประณีตจะสั้นไปหน่อย หูรูปทรงดีแม้จะยาวไปแล้วผมสีเขียวของเธอเนี่ยไม่ได้ทำให้เธอขี้เหร่เลย ตั้งแต่เอวลงไปเนี่ยจะมีลักษณะคล้ายกับปลา แต่เมื่อไหร่ดูตามความจริงแล้วบันทึกนี้เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้นโดยอเล็กซานเดร dumas ผู้แต่งสามทหารเสือเขียนหนังสือพิมพ์ปี 1849 เพื่อเพิ่มอรรถรสให้เรื่องราวของตนเท่านั้นเอง
คนที่สองคือ Henry Hudson นักสำรวจชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงอยู่ในยุคศตวรรษที่ 17 โดยในบันทึกของเขาเมื่อปี 1608 กล่าวไว้ว่าลูกเรือของเขาจำนวนหนึ่งแต่เจอนางเงือกว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆกับเรือ และมองมายังพวกเขา ลูกเรืออ้างว่าตั้งแต่สะดือขึ้นมาหลังและหน้าอกดูเหมือนผู้หญิง แล้วเหมือนพวกเธอว่ายดำลงไปในทะเล พวกเขาเห็นหางของพวกเธอมีลักษณะคล้ายกับหางปลาโลมา
คนที่ 3 ก็คือ คริสโตเฟอร์โคลัมบัส บันทึกการพบนางเงือกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกของโลก มาจากบันทึกของคริสโตเฟอร์โคลัมบัส ในบันทึกเป็นของวันที่ 9 มกราคมปี 1493 บันทึกแปลเป็นภาษาอังกฤษมีใจความว่า เมื่อพลเรือนออกเดินทางไปยังรีโอเดจาเนโร เขาเล่าว่าเขาเจอนางเงือก 3 ตน ลอยสูงเหนือน้ำแต่พวกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คนพัฒนาไว้ เพราะมีแค่รูปร่างใบหน้าที่เหมือนมนุษย์ เขาเล่าว่าเขาได้เจอมันอีกในกินี แล้วก็ชายฝั่งมาระโกตา
จะเห็นว่าสิ่งที่โคลัมบัสเห็นไม่ได้ตรงตามตำนานหญิงสาวครึ่งคนครึ่งปลาที่มีหน้าตาสวยงาม แต่อย่างนั้นการตีความและยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ หากดูตามต้นฉบับภาษาสเปนใช้การบันทึกโดยใช้คำเดิมว่า salinas แต่ปัจจุบันน่ะอาจจะแปลได้ถึงไซเรน แต่ก็มีทฤษฎีที่ว่าในยุคสมัยนั้นน่ะ โคลัมบัสอาจจะตั้งใจหมายถึงสัตว์ที่นักเรียนเรือ น่าจะรู้จักกันดีว่า salinasคือพะยูนตั้งแต่แรก หรืออาจจะแค่กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ของพะยูนเคยเจอก่อนออกเดินเรือ แล้วไอ้ที่กล่าวว่าหัวเหมือนมนุษย์ลอยน้ำได้มีหางคล้ายโลมา จะบอกว่านางเงือกที่แท้จริงแล้วน่ะเป็นพะยูนอย่างนั้นหรือ หลายต่อหลายคนที่ได้พบเห็นสัตว์แสนแปลกตอนนี้ ต่างก็บันทึกและเรียกชื่อของมันแตกต่างกันออกไป นักธรรมชาติวิทยาชาวอิตาลี อูดิเนเซ่ ultrasound-assisted ได้ตีพิมพ์คำอธิบายและภาพวาดของพะยูนอย่างละเอียดในปี 1613 และภาพนี้วาดโดยมิชชันนารีและนักประวัติศาสตร์ตามธรรมชาติของบราซิล Chris Evans ในปี 1647 และในปี 1687 บาทหลวงชาวอิตาลีผู้บันทึกประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและวัฒนธรรมจากการเดินทางไปยังแอฟริกาของเขา เขาได้วาดรูปหนึ่งขึ้นมารูปนี้เรียกว่า ปลาผู้หญิง เมื่อการแพร่กระจายกันออกไปของเรื่องราวการมีอยู่ของสัตว์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ ทั้งจากการพบเห็นในทะเลบันทึกต่างๆ ทำให้ตำนานมีเค้าโครงความจริงมากขึ้น และทำให้เรื่องราวของนางเงือกสิ่งมีชีวิตที่แสนอัศจรรย์แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างเป็นเวลาหลายร้อยปี และกว่าที่วิทยาศาสตร์จะสามารถก้าวเข้ามาแทนที่ตำแหน่งต่างๆท่านในยุคศตวรรษที่ 19 ได้ ซึ่งเรื่องราวของนางเงือกก็ก่อรากฝังลึกลงไปทั่วฝืนทะเลแล้ว
ตั้งแต่ต้นคลิปเราได้พูดถึงตำนานนางเงือกจากฝั่งยุโรปกันหมดเลย แล้วฝั่งเอเชียบ้านเราอ่ะไม่มีตำนานนางเงือกกับเขาหรือ ถึงแม้ว่านางเงือกน่าจะมีประวัติยาวนานมาในฝั่งยุโรป แต่ก็ทำให้เชื่อได้ว่าโดยอิทธิพลการล่าอาณานิคมการค้าขายทางทะเล ส่งผลให้ตำนานนางเงือกในการแพร่ขยายมายังฝั่งเอเชียเช่นกันจะมีประเทศอะไรบ้าง
ประเทศญี่ปุ่น มีความเชื่อเรื่องนางเงือกมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1789 ถึงนิ่งเหมี่ยวแปลตรงตัวว่ามนุษย์ปลา เป็นตำนานสิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายผสมกันระหว่างมนุษย์ผู้หญิงกับปลา บางตำนานไม่ใช่ครึ่งคนครึ่งปลาซะทีเดียว เพราะมีลักษณะเป็นปลาที่มีหัวของผู้หญิง ในพจนานุกรมโคเจนที่ได้ตีพิมพ์ในปี 1995 รับให้เป็นมนุษย์ครึ่งปลาโดยไม่ระบุเพศ
ประเทศจีน มีบันทึกเก่าอกถึง 2500 ชื่อซ้านดีจิน ที่รวบรวมตำนานพื้นบ้านต่างๆกล่าวถึงซาวบาดานใต้น้ำ ซึ่งพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่เป็นคนผสมกับปลาหลายแบบ มีทั้งปลาแบบหน้าคนหรือคนที่มีลำตัวเป็นปลา โดยพวกมันมีเสียงร้องแบบเด็กรวมถึงบางตัวสามารถชุบชีวิตได้ด้วย
ตำนานนางเงือกไทย สำหรับตำนานนางเงือกไทยของเราน่ะมีนางเงือกอยู่ 2 ตนที่ผู้คนรู้จักกันมามากที่สุดนั่นก็คือ สุพรรณมัจฉา จากเรื่องรามเกียรติ์ และก็นางเงือกจากเรื่องพระอภัยมณี เรื่องสุพรรณมัจฉาเนี่ยเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากนะครับ แต่สุดท้ายเล่าตอนนี้แล้วก็คงยาวแน่เลย ยังไงถ้าใครอยากฟังก็คอมเม้นต์กันไว้นะครับ
จากต้นคลิปที่เรากล่าวมานั้นน่ะ คลิปนางเงือกที่อ้างว่าเป็นนางเงือกตัวจริงปัจจุบันได้ถูกลบไปแล้ว โดยโฆษกวงการสำรวจข้อมูลยืนยันว่าไม่มีรายงานการพบนางเงือกหรือเด็กที่โดนปลากินในเวลานั้น รวมถึงผู้บัญชาการมณฑลเคนยาเองก็ยังกล่าวว่า ในวิดีโอนี้มันเป็นของปลอม ส่วนใครที่อยากรู้เพิ่มเติมของวิดีโอนี้สามารถหาดูได้ตาม youtube ส่วนวิดีโอสัตว์ประหลาดจากช่อง Animal Planet นั่นน่ะเอาเป็นของปลอมเช่นกัน โดยรายการบิดเบือนความจริงชื่อว่า Mermaid ตอน The New Orleans ที่เป็นภาคต่อจากรายการบิดเบือนความจริงอีกรายการหนึ่งเช่นกันในชื่อ Mermaid The Body found ในปี 2011 ทุกคนนั้นเป็นเพียงนักแสดงและไม่มีข้อมูลความจริงเลย อย่าเพิ่งสิ้นหวังนะครับสำหรับคนที่หวังว่าจะมีจริงเมื่อต้นปี 2022 ประเทศญี่ปุ่นได้มีการนำซากมัมมี่อายุราว 300 ปี ออกมาทำการพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือไม่ โดยที่กล่องระบุไว้ว่าจับได้เมื่อปี 1736 ถึงปี 1741 และถูกเก็บรักษามาตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น นักวิชาการหลายคนน่ะเชื่อว่ามันอาจจะเป็นของปลอมที่ทำขึ้นมาจากซากลิงเย็บติดกับซากปลา เพื่อทำการส่งขายหน้าตาแบบเดียวกันกับซากนางเงือกที่พิพิธภัณฑ์บริติช หรือนางเงือกที่โด่งดัง การนำซากออกมาพิสูจน์ในครั้งนี้ เรารอดูก่อนนะครับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตหรืออะไรกันแน่ รอทราบผลปลายปี 2022
แน่นอนว่ายังไม่มีใครยืนยันถึงตำนานนางเงือกที่เก่าแก่หลายพันปีนั้นมาจากอะไร ตำนานนางเงือกที่คล้ายคลึงกันทั่วโลกนั้นน่ะจะมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ และหากมันมีอยู่จริงอ่ะทำไมในยุคสมัยที่เราสามารถเดินทางน้ำได้อย่างสะดวกสบายขึ้น แต่ก็ไม่มีรายงานการเจอนางเงือกอีกเลย เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆเรื่องราวของนางเงือกชอบกันไหมเอ่ยชอบนะยังไงก็ฝากกด like กด Subscribe กดแชร์กดอะไรก็ได้ให้กับช่อง พร้อมเหลา ของเรา เพื่อนๆอยากรู้เรื่องอะไรอยากฟังเรื่องอะไรคอมเมนต์ได้เลยเด้อ