ก่อนหน้าที่ Stranger Things จะได้ออกสู่สายตาผู้ชม ซีรีส์นี้เคยใช้ชื่อว่า Montauk ซึ่งมาจากทฤษฎีที่ว่าสหรัฐในช่วงสงครามเย็นเคยจับเด็กไปทดลองเทคโนโลยีต่างๆตั้งแต่ การควบคุมจิตใจ ไปจนถึงการข้ามเวลา ในชื่อ Montauk Project เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เชิญชมได้ในคลิปเลยครับผม
Stranger Things โครงการลับพลังจิตข้ามมิติ
เพื่อนอ่ะรู้จักสเตรนเจอร์ ธิงส์ กันดีอยู่แล้วแต่รู้หรือไม่ว่าซีรีย์นี้ใครไม่ใช่ว่า Montauk ซึ่งมาจากทฤษฎีที่ว่าสหรัฐในช่วงสงครามเย็น เคยลักพาตัวเด็กไปทดลองเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่การควบคุมจิตใจไปจนถึงการข้ามเวลา และนี่คือเรื่องราวของ Diamond Talk Project Montauk เป็นเมืองติดทะเลที่ตั้งอยู่บนลองไอแลนด์รัฐนิวยอร์ก ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ถูกใช้เป็นฐานทัพทางการทหารมีการก่อสร้างแคมป์ฮีโร่ขึ้น เพื่อคุ้มครองเส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนของนิวยอร์ก กระทั่งเข้าสู่ช่วงสงครามเย็นสหรัฐเริ่มปิดค่ายและฐานทัพทหารต่างๆรวมถึงใช้ฮีโร่ด้วยแต่ในช่วงปี 1980 เริ่มมีข่าวลือถึงโครงการรับที่สหรัฐแอบทดลองเครื่องมือสงครามจิตวิทยาบนลอง aisin แต่ก็ไม่ได้ถูกมองจริงจังเท่าไหร่นักกระทั่งปี 1992 หนังสือ the most expensive In Time ได้เผยแพร่ออกมาเป็นครั้งแรกผู้แต่งคือ คริสตัลนิโคลเล่าถึงเรื่องราวของตัวเขาเอง และอ้างว่าในแคมป์ฮีโร่เป็นฐานทัพลับของการทดลองพิสดารต่างๆ
นิโคกล่าวว่าเขาได้รื้อฟื้นความทรงจำที่ถูกปิดเอาไว้ทำให้รู้ว่า ตัวเขาเป็นอดีตนักวิจัยในโครงการรับโดยมีการทดลองเหนือธรรมชาติมากมาย ตั้งแต่ควบคุมจิตใจการล้างสมองเปิดปิดมิติเวลาต่างๆ ติดต่อกับเอเลี่ยนและลักพาตัวเด็กที่หนีออกจากบ้านมาทดลอง โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพสหรัฐ ที่ได้ทุนมาจากทองคำของนาชี แม้หนังสือของนิโคลจะไม่ได้โด่งดังมากนักแต่ก็ทำให้ทฤษฎีนี้เริ่ม เป็นที่พูดถึงโดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีผู้ที่ออกมาบอกว่า พวกเขาเองก็มีประสบการณ์ในโครงการด้วยเหมือนกันย้อนกลับไปในปี 1988 ชายคนหนึ่งชื่อว่าอัลบิเร็กซ์ได้ดูภาพยนตร์เรื่อง philadelphia experiment ที่สร้างจากตำนานเรือที่ทำการทดลองข้ามมิติ และนั่นทำให้บีเล็ก รู้สึกถึงความดีจาบูและเข้ารับการบำบัดจนกระทั่งเขาได้ค้นพบว่าไม่ใช่แค่ philadelphia experiment เท่านั้นเขายังมีความทรงจำเกี่ยวกับนันทอก Project อีกด้วยเขาคิดว่าตัวเองโดนล้างความทรงจำไปโดยเทคนิคจากโครงการลับของ cia ที่ชื่อ MK Ultra และชื่อจริงๆของเขาก็คือ
เอ็ดเวิร์ด แคเมรอน พร้อมกับน้องชายที่ชื่อ ดันแคน แคเมรอน ใครประจำการอยู่บนเรือ exim ตั้งแต่ปี 1943 และพวกเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งผู้ที่สร้างอุปกรณ์ข้ามเวลาต่างๆคือ nikola tesla หนึ่งในนักประดิษฐ์ที่เก่งที่สุดในโลกนั่นเอง ซึ่งผลจากการทดลองทำให้เขาและน้องชายไปโผล่ที่แคมป์ฮีโร่ของเมืองมอญ Talk และทำให้ได้เข้าร่วมโครงการรับของที่นั่นเขาเล่าว่าโครงการ Montauk ได้รับการสานต่อจากเครื่องมือของ tesla ตัวเบรคเองได้สนิทกันกับนิโคลและร่วมกันสร้างอุปกรณ์หลักของโครงการนั้นคือ เดอะมอล์ล sher ถูกอธิบายเอาไว้ในหนังสือของนิโคลว่า มันใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถเพิ่มพลังจิตให้กับใครก็ตาม ที่นั่งมันหนึ่งในนั้นก็คือดันคาร์เมลอน ซึ่งบังเอิญมีความสามารถด้านพลังจิตเมื่อเขานั่งที่เก้าอี้นี้แล้ว จะทำให้สามารถควบคุมสิ่งของไปจนถึงเปิดประตูมิติได้ทำให้เขา และบีเล็กเดินทางไปยังอดีตอนาคต หรือ แม้แต่ต่างดาวรวมถึงการทดลองที่เรียกว่า The Series นายนั่นคือไม่ดังแค่นหรือเส้นผมหรือสิ่งของ คนๆหนึ่ง
จะทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ยินมองเห็น และสัมผัสผ่านคนๆนั้นได้จากทุกมุมโลกซึ่งโครงการ จะลักพาตัวเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 4 ขวบตั้งแต่เด็กข้างถนนไปจนถึงจากบ้านของพวกเขาเลยทีเดียว ซึ่งการทดลองและทรมานสารพัด ทำให้พวกเขาไม่สามารถจำเรื่องราวภายในค่ายทดลองได้ไปตลอดชีวิต เรื่องราวที่น่าสนใจขึ้นไปอีกเมื่อมีคนออกมายืนยันว่า เคยเป็นเหยื่อของโครงการนี้สจ๊วตนักเขียนเรื่องเหนือธรรมชาติ เป็นคนที่บอกว่าตัวเขาเป็นเหยื่อในการทดลองโดยจะถูกจับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วการทำร้ายร่างกาย รวมถึงการล่วงละเมิดต่างๆจนกระทั่งจิตใจของพวกเขานั้นแตกสลายอย่างสมบูรณ์ เขายังบอกอีกว่าเคยโดนส่งผ่านประตูมิติไปที่ดาวอังคารและยุพดีถึง 4000 ปีซึ่งในช่วงแรกเด็กบางคนนั้นหายสาบสูญไปจากการที่ประตูมิติยังไม่เสถียร โครงการนี้ยังดำเนินต่อมาจนถึงช่วงปี 1980 กระทั่งการทดลองเริ่มถลำลึกเกินกว่าที่นั่ง ใครจะควบคุมได้นิโคล Lava อะไรก็ตามที่ปรากฏในนิมิตของคนที่นั่งบนเก้าอี้พลังจิต จะถูกทำให้เกิดมีตัวตนขึ้นในโลกความจริงซึ่งในการทดลอง
1 คันแล้วถูกกระตุ้นให้ปล่อยสัตว์ประหลาดยักษ์โผล่ออกมาจากนิมิต แม้จะมีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนแต่ไม่มีใคร บอกลักษณะของมันเหมือนกันเลยเจ้าอสูรกายตัวนี้กินแล้ว ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าทำให้นักวิจัยต้องทำลายเครื่องมือทุกอย่าง เพื่อส่งมันกลับไปนิโคลแค่นช่วยกันขนปูนปิดตาย ห้องทดลองใครก็ตามที่มีส่วนร่วมต้องถูกล้างความทรงจำด้วยวิธีจาก MK อัลตร้าและโครงการก็ถูกปิดลงแต่ผู้ที่อ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนยังยืนยันว่าโครงการนี้ยังมีอยู่สักแห่งในโลกแน่นอน มาถึงตรงนี้ถ้าใครเคยดู Stranger Things จะเห็นว่าโครงเรื่องคล้ายกันมากเป็นเพราะดวงดาว ในซีรีย์นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือของนิโคล กระทั่งตั้งชื่อว่ามันท้องและตั้งใจให้สถานที่ภายในเรื่องอยู่ที่ลองไอแลนด์นี่เอง ก่อนที่ปัญหาด้านลิขสิทธิ์ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนชื่อและสถานที่ต่างๆ ไปแต่เชื่อหรือไม่ว่าบางส่วนของทฤษฎีนั้น มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงโดยเฉพาะโครงการรับที่ถูกปิดไว้หลายปี ก่อนจะถูกเปิดเผยต่อประชาชน
และเกิดคำวิจารณ์กันออกไปในวงกว้างโครงการนั้นก็คือ MK อัลตร้า esculenta คือหนึ่งในด้านมืดของสหรัฐโดยโครงการนี้แอบทำกันอย่างลับในปี 1953 ถึง 1973 โดย cia ภายในโครงการจะมีการใช้ยาหลอนประสาทการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ไปจนถึงการทำให้เป็นอัมพาตชั่วคราวเพื่อหาวิธีป้องกันการถูกล้างสมอง ในอนาคตมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 150 คนทั้งสมัครใจและไม่สมัครใจก่อนที่ผู้รับผิดชอบจะออกมายอมรับ การมีอยู่ของโครงการและการรับผ้าเหยื่อไปทดลองว่าเป็นเรื่องจริงกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ต่างๆ ของสหรัฐและก่อให้เกิดกระแสความไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาทั้ง MK Ultra efficient ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องโครงการ Montauk มากเลยทีเดียว
Montauk เป็นอีกเรื่องราวที่ทำให้เราเห็นแล้วว่าหากสมคบคิดหรือตำนานต่างๆ ในมุมของนิยายด้วยความบันเทิงแล้วก็จะเกิดเป็นไอเดียและผลงานที่น่าสนใจได้เหมือนกับที่ Stranger Things ทำสำเร็จมาแล้วนั่นเอง สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามคลิปวิดีโอเต็มเรื่องได้ที่ พร้อมเหลา