Tutankhamun เรื่องจริงของคำสาปกับอาถรรพ์ที่คร่าชีวิตนักสำรวจ

Tutankhamun

เรื่องจริงของคำสาป Tutankhamun กับอาถรรพ์ที่คร่าชีวิตนักสำรวจ หนึ่งในคำสาปที่โด่งดังที่สุดในโลกคือคำสาปตุตันคามุนหรือทุทอังค์อามุน กับปริศนาการตายของผู้เกี่ยวข้องหลายราย เรื่องราวคำสาปมันมี่มรณะมีความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ รับชมบทความเนื้อหาสาระกันได้เลยที่นี่ พร้อมเหลาขอนำเสนอ

Tutankhamun คำสาปกับอาถรรพ์

หนึ่งในเรื่องราวคำสาปที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของสุสานฟาโรห์ทุตอังคาเมิน เมื่อเหล่าผู้สำรวจต่างตายลงไปทุกคนแล้วคนเล่า จนกลายเป็นตำนานความน่าสะพรึงกลัวของอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ นี่คือเรื่องราวของคำสาปที่โด่งดังที่สุด คำสาปฟาโรห์สุสานฟาโรห์ทุตอังคาเมิน ทุตอังคาเมิน หรือ ทูทังคาเมิน คือฟาโรห์คนสุดท้ายของตระกูล เขาเกิดจาก artisan กับน้องสาวของตนเอง ทำให้ฟาโรห์ทุตมีลักษณะพิการตั้งแต่กำเนิด ทุตอังคาเมินขึ้นเป็นฟาโรห์ต่อจากพ่อของเขาตั้งแต่อายุได้เพียง 8-9 ปี ก่อนจะสิ้นชีพไปเมื่ออายุ 18 ปี ในเวลานั้นทุตอังคาเมินไม่ใช่กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่นัก สุสานของเขาถูกลืมเลือนไปจนมีผู้มาสร้างที่อยู่อาศัยบริเวณนั้น ส่งผลให้สุสานยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ ซึ่งสร้างประโยชน์ต่อวงการวรรณคดีมาก เพราะง่ายต่อการศึกษาวัฒนธรรมอาณาจักรอียิปต์โบราณ เป็นสาเหตุให้ทุตอังคาเมินเป็นหนึ่งในฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน แต่นั่น ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวการค้นพบสุสานแห่งนี้ยังมีเรื่องราวที่สร้างความน่าสะพรึงไปทั่วโลก พฤศจิกายนปี 1922

คณะนักโบราณคดีชาวอังกฤษนำโดยโฮวาร์ด Carter ที่ได้รับการสนับสนุนจากจอร์จเฮอร์เบิร์ตขุนนางลำดับที่ 5 แห่งคาร์บอน ทำการขุดสำรวจในบุพผากษัตริย์ของอียิปต์มาหลายปี แต่การค้นหานั้นถ้าไม่ได้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย กระทั่งหนึ่งในคนงานเดินสะดุดหินที่กลายเป็นหน้าทางเข้าของสิ่งก่อสร้างที่อยู่ใต้ดิน การค้นพบที่ไม่คาดคิดนี้กลายเป็นการเจอกับสุสานฟาโรห์ที่มีอายุมากกว่า 1000 ปี ข้างในเต็มไปด้วยทองคำเรียงรายด้วยทรัพย์สมบัติและวัตถุโบราณหลายพันชิ้น กลายเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการโบราณคดี แต่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเพราะเรื่องราวที่เล่าขานตามมา กับเป็นความเกี่ยวข้องกับคำสาปและความตาย เมื่อมีเรื่องเล่าขานที่ว่า Carter ได้พบเห็นกับคำจารึกที่แปลได้ว่า มรณะจักรโบยบิน มาสังหารสู่ผู้บังอาจนำความสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์ ซึ่งดูเหมือนคำสาปจะเริ่มทำงานเมื่อถึงวันเปิดสุสาน นกขมิ้นที่ Carter เลี้ยงที่บ้านถูกงูเห่ากิน ซึ่งงูเห่าเป็นสัญลักษณ์ของฟาโรห์ นี่จึงเป็นนัยว่ากษัตริย์อียิปต์กำลังลงมือแล้ว

แต่คาเตอร์ก็ยังไม่สนใจคำสาปเหล่านั้นและเริ่มเปิดสุสานในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1923 ทว่าในเดือนถัดมา ล็อตคานาบอร์ล ผู้เป็นนายทุนเริ่มป่วยลง โดยสาเหตุมาจากที่เขาพลาดโกนหนวดโดนรอยยุงกัดจนเกิดการติดเชื้อ ก่อนจะเสียชีวิตในเดือนเมษายนพร้อมกับข่าวลือว่า รอยยุงกัดนั้นเป็นตำแหน่งเดียวกันกับแผลเป็นที่แก้มซ้ายของฟาโรห์ธุต นอกจากนี้ในช่วงที่เขาตายในโรงพยาบาลของไคโล ตอน 8 นาฬิกา ไฟฟ้าของทั้งเมืองดับลงชั่วขณะและสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ในอังกฤษก็ตายลงไปในตอน 8:00 น เช่นกัน การตายของขุนนางจุดกระแสคำสาปมรณะ ผู้คนต่างให้ความเห็นกับเหตุการณ์ประหลาดนี้ รวมถึง Sir Arthur Conan doyle ผู้แต่ง Sherlock Holmes ที่ให้ความเห็นว่าอาจเป็นเพราะพลังงานชั่วร้ายที่นักบวชได้คาถาป้องกันเอาไว้ แต่นี่ก็เป็นเพียงความตายครั้งแรกเท่านั้น เซอร์อาชีบาว ดั๊กลาสบีชรังสี แพทย์ผู้ได้รับมอบหมายให้ทำการเอกซเรย์พระศพของฟาโรห์ ป่วยและเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้ทำหน้าที่ 5 เดือนหลังจากนั้น

orbid น้องชายต่างมารดาของลอร์ดคาร์นาร์วอนเสียชีวิต จอร์จเจ Good นายทุนชาวอเมริกันเดินทางมาที่ศาลก่อนจะป่วยลงและตายไปในไม่กี่เดือนต่อมา หลังจากนั้นมีข่าวใหญ่ของ Prince Ali khamenei เชื้อพระวงศ์ชาวอียิปต์ถูกพัทยาฆาตกรรมหลังจากที่เขาเข้าชมสุสาน เพียงปีเดียวมีข่าวการเสียชีวิตบนหน้าหนังสือพิมพ์ถึง 5 คน แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบแค่นั้น hedonist นักโบราณคดีชาวอังกฤษที่มาที่สุสานและมีส่วนช่วยในการขุด ฆ่าตัวตายในปี 1924 พร้อมกับทิ้งข้อความที่เขียนด้วยเลือดว่า ตัวเขาพ่ายแพ้ให้กับคำสาป ปี 1925 คาร์เตอร์ส่งของขวัญให้กับเพื่อนสนิท เป็นมือมัมมี่พร้อมสร้อยข้อมือรูปแมลงสคารับที่มีรอยสลักว่า คำสาปจะอยู่กับผู้ที่เคลื่อนย้ายกายค่า มันจงพบกับไฟน้ำและโรคระบาด ไม่นานบ้านของเขาถูกไฟไหม้หลังซ่อมแซมยังโดนน้ำท่วมซ้ำเติมอีก จนต้องทิ้งของขวัญชิ้นนี้ไป อารอน Amber นักวิทยาชาวอเมริกันซึ่งใกล้ชิดกับคณะครูศึกษาหลายๆคน โชคร้ายบ้านของเขาถูกไฟไหม้ทำให้ตัวเขาภรรยาลูกชายและคนใช้เสียชีวิตในปี 1926

มาถึงเลขาของลอร์ดคานาวอนและเป็นคนที่สองที่ก้าวเข้าไปในสุสาน Richard Mille เขาขาดอากาศหายใจตายบนเตียงในปี 1929 ตามรอยพ่อของเขาที่กระโดดจากห้องพักชั้น 7 กับข่าวลือที่ว่าเขาครอบครองวัตถุโบราณจากสุสานหลายชิ้น แม้ผ่านไปหลายสิบปีก็ยังมีข่าวหัวหน้าผู้เดินสายจัดนิทรรศการในชื่อสมบัติของทุตอังคาเมิน ตายก่อนการเซ็นสัญญาเพียงแค่วันเดียว คำสาปฟาโรห์กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลก ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้สุสานแห่งนี้ด้วยความกลัวถึงพลังอำนาจลึกลับที่อาจส่งผลร้ายต่อพวกเขา แต่คำสาปนี้อาจเป็นเรื่องเกินจริงก็เป็นได้ ก่อนอื่นสุสานบรรจุศพที่มีอายุมากกว่าพันปีนั้นไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยแน่นอน โดยเฉพาะด้านความสะอาดที่นี่น่าจะเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรคชั้นดี ไม่แปลกเลยที่ผู้มาเยี่ยมชมจะได้รับเชื้อเหล่านี้กลับไปเป็นของแถม ก็หน้าที่หลอดขะนาวอนว่าจะมาที่อียิปต์เขาเคยประสบอุบัติเหตุรถยนต์จนเกือบไม่รอด เขาจึงไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ดังนั้น การตายจากการติดเชื้อของรอยแผลเล็กๆในยุคที่ยังไม่มียาฆ่าเชื้อนั้นก็ไม่ได้เกินจริงไปนัก

เช่นเดียวกับน้องชายของเขาที่มีสุขภาพอ่อนแอเป็นทุนเดิม อาการของเขาแย่ลงถึงขั้นที่ตาบอดสนิท เขาเข้ารับการผ่าตัดแต่โชคร้ายทางการแพทย์นั้นยังไม่เจริญก้าวหน้านัด ทำให้เขาติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิต เซอร์อาชีบาวผู้รับหน้าที่เอกซเรย์และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านรังสีวิทยา เขามีโรคผิวหนังเรื้อรังจากการทำงานด้านรังสีเป็นเวลานาน และเสียชีวิตก่อนที่จะได้เดินทางไปอียิปต์ซะอีก จะเห็นได้ว่าผู้ที่เสียชีวิตหลายคนนั้นมักมีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีอายุเยอะแล้ว นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่มีผลอย่างมากต่อชื่อเสียงของคำสาป คือการเติมแต่งและเชื่อมโยงจุดเล็กๆต่างๆ เพื่อทำให้ข่าวน่าสนใจมากขึ้น การตายของบางคนนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุสานด้วยซ้ำ เช่นกรณี aven ที่ฆ่าตัวตายนั้นสาเหตุแท้จริงมาจากการสูญเสียเพื่อนสนิทไปต่างหาก Amber ที่เสียชีวิตจากไฟไหม้ไม่เคยมาที่สุสานนี้เลยหรือ Richard Mille กับพ่อของเขาที่สภาพจิตใจอาจได้รับผลกระทบจากข่าวของคำสาปมากเกินไป รวมทั้งยังมีเรื่องที่ไม่ได้มีหลักฐานหรือเป็นเพียงข่าวลืออีกจำนวนมาก

เช่น รอยยุงกัดที่เราว่าเป็นตำแหน่งเดียวกันกับฟาโรห์ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะศพของหลอดคานาบอนถูกฝังไปเสียก่อน รวมถึงเรื่องที่เมืองไคโรยังมีไฟดับเป็นประจำแม้กระทั่งในปัจจุบัน นกขมิ้นของ Carter ก็มอบให้เพื่อนไปนานแล้ว และไม่มีการยืนยันการตายของสุนัขเลี้ยงของหลอดคานาบอนอีกด้วย หรือเรื่องมือมัมมี่ต้องสาปของขวัญสุดสยองจาก Carter ก็ฟังดูไม่น่าจะเป็นของขวัญที่ดีเท่าไหร่รวมถึงมือนั้นเป็นของใครก็ไม่รู้ เพราะมือของฟาโรห์ชุดยังอยู่ครบถ้วนหรือจะเป็นข่าวการตายของหัวหน้าจัดนิทรรศการ ซึ่งก็น่าจะเป็นการโปรโมทเท่านั้น โดยเฉพาะการไม่เจอคำสาปอยู่ที่ไหนเลยในสุสาน ซึ่งเชื่อว่ามาจากการที่หนังสือพิมพ์และคลาดเคลื่อนอยู่เป็นประจำ คำที่ถูกบันทึกไว้ในสุสานต่างๆมักอยู่ในรูปแบบคำเตือนถึงบทลงโทษเท่านั้น แต่การสาปแช่งนั้นมีอยู่จริง เช่น ในวิหารฝังศพอเมนโฮเทประบุบทลงโทษผู้บุกรุกว่า ใส่ไว้ในเตาล้อมของกษัตริย์ เทพเนบัสจะเทไฟบนหัวของพวกมัน ทำไมเลือดเนื้อถึงกลืนกินกระดูกของพวกมัน

ข้อความนี้กล่าวถึงการลงโทษผู้ที่ทำผิดเท่านั้น ซึ่งน่ากลัวกว่าประโยคที่โด่งดังซะอีกในภายหลัง นักโบราณคดีเฮอร์เบิร์ต อีวินล็อก รวบรวมข้อมูลชัดเจนว่าใน 10 ปี มีผู้ที่เข้าร่วมเหตุการณ์เปิดสุสานเสียชีวิตจำนวน 6 คน จากทั้งหมด 26 คนเท่านั้น และใน 10 คนที่แก้ผ้าห่อศพก็ไม่มีใครเสียชีวิตเลย ดูเหมือนว่ารักคำสาปมีจริงก็อาจจะไม่ใช่คำศัพท์ที่แม่นยำนัก เพราะยังมีอยู่คนหนึ่งที่ถึงขั้นเรียกคำสาปนี้ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และเคยทำให้ศพของฟาโรห์เสียหายด้วย คนๆนั้นคือหัวหน้าผู้ที่รับผิดชอบการนำคณะค้นหาทั้งหมด โฮวัส Carter ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อมาถึง 16 ปี นอกจากเขาแล้ว Surgeon ที่ทำหน้าที่เฝ้ายามดูแลสุสานถึง 7 ปี เป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดกับพระศพมากที่สุดก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อมาอีก 1 ปี 1982 ยังไม่รวมถึงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการจัดขบวนแห่มัมมี่ของฟาโรห์หลายๆองค์ในกรุงไคโร ซึ่งนักอียิปต์จิตวิทยาในปัจจุบันยังยืนยันว่าคำสาปฟาโรห์ที่กล่าวถึงกันไม่มีอยู่จริง เรื่องราวของคำสาปฟาโรห์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ ก่อนการค้นพบสุสานมีวรรณกรรมมากเกี่ยวกับคำศัพท์จากอียิปต์อยู่ก่อนแล้ว

แม้กระทั่งคนแอนดอยล์ที่ออกมาให้ความเห็นด้วยนี้ก็เคยแต่งเรื่องคำสาปมัมมี่ไว้ก่อนหน้าถึง 30 ปี ถึงไม่ยากเลยที่เรื่องนี้จะถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้งแล้วทำไมคณะนักโบราณคดีถึงปล่อยให้เรื่องของคำสาปโด่งดังกันล่ะ หลังข่าวการเปิดสุสานแพร่ออกไป มีผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชมจากทั่วสารทิศ ซึ่งนั้นย่อมสร้างความลำบากต่อการทำงานแน่นอน กระทั่งข้าวของคำสาปที่เกิดขึ้นทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สุสานเลย ทั้งนักท่องเที่ยวหรือโจรปล้นสุสาน แม้แต่สำนักพิมพ์เข้าถึงพื้นที่ได้ก็มีเพียง the time เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังสร้างชื่อเสียงให้สุสานได้เป็นอย่างมาก ดูแล้วคำสาปส่งผลดีต่อการทำงานซะอีก แม้คำสาปฟาโรห์จะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเหมือนในอดีตแล้ว อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ความจริงของวัฒนธรรมอียิปต์โบราณถูกเข้าใจผิดและบิดเบือนไป แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ทำให้มีเสน่ห์นี้ตราตรึงใจหลายๆคนมากขึ้น แล้วคุณล่ะคิดว่าคำศัพท์นี้เป็นเรื่องจริงแค่ไหน หากชอบก็ฝากติดตามเรา พร้อมเหลา มีเรื่องเล่ามาให้ติดตามครบทุกเรื่องแน่นอน

ใส่ความเห็น